svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รมว.ดีอี เล็งตั้งศูนย์สกัดข่าวปลอมบนโลกออนไลน์

18 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พุทธิพงษ์" เข้านั่งเก้าอี้รมว.ดีอี วันแรก มอบแนวคิดการทำงาน 3 ด้านหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ-สังคม-ความมั่นคงดิจิทัล ผ่านโครงการต่างๆที่ต่อเนื่องจากนโยบายเดิม เล็งตั้งศูนย์สกัดข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ เป็นโครงการใหม่ที่จะเพิ่มเข้าไป ย้ำแนวคิดนี้ไม่ใช่มุ่งรังแกใคร

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) กล่าวว่า วันนี้ (18 ก.ค.) ได้เข้ามอบแนวทางการทำงานร่วมกับผู้บริหารและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลฯเพื่อร่วมกันทำงานขับเคลื่อนโครงการตามโรดแมปการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมยุคใหม่ซึ่งจะต้องมีการทำงานเชิงรุกยิ่งขึ้น เพื่อรับมือความท้าทายและสร้างให้ประชาชาชน "รู้ทัน" ยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน


ทั้งนี้แนวทางการทำงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จะแบ่งกว้างๆ เป็น 3 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัลสังคมดิจิทัล และความมั่นคงดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยจะขับเคลื่อนการทำงานผ่านโครงการต่างๆ และสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นถึงบทบาทของดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและใช้บริการต่างๆของภาครัฐ อย่างเช่นโครงการ National Single Window รวมทั้งการสร้างความสำเร็จในการทำธุรกิจด้วยการค้าขายทางออนไลน์(อี-คอมเมิร์ซ)ซี่งเป็นการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายเน็ตประชารัฐที่กระทรวงฯเตรียมไว้ให้แล้วก่อนหน้านี้


ขณะเดียวกัน เตรียมจำแนกกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดคล้องกับโครงการทั้ง3 ด้านข้างต้น ออกเป็น 5 กลุ่มย่อยที่จะมีบทบาทต่อวิถีชีวิตของประชาชนในยุคดิจิทัลได้แก่ เทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech), เทคโนโลยีการศึกษา (EdTech), เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่(AgriTech), เทคโนโลยีด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่ทันสมัย(HealthTech) ส่วนกลุ่มสุดท้ายรอรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ


รมว.ดีอี เล็งตั้งศูนย์สกัดข่าวปลอมบนโลกออนไลน์




"ในการเข้ามารับผิดชอบกระทรวงดิจิทัลฯผมได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าให้รีบทำงานเพราะที่นี่เป็นกระทรวงที่เป็นความคาดหวังของท่านนายกรัฐมนตรี ความหวังของคนรุ่นใหม่เป็นความหวังของประเทศ เพราะไทยเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลแล้ว" นายพุทธิพงษ์กล่าว


นอกจากนี้ ยังได้มอบกรอบการพัฒนากระทรวงฯเพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ในวงกว้างยิ่งขึ้นผ่านแนวทาง "ทันสมัยทั่วถึง และเท่าทัน" โดยเป็นกระทรวงที่มีความทันสมัยในสายตาประชาชนประชาชนเข้าถึงบริการและข้อมูลสำคัญผ่านเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างทั่วถึงและให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ "รู้เท่าทัน" เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ที่รู้มากกว่าและนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด


"โซเชียลยุคนี้ตีกรอบการทำงานของเราให้ยากขึ้นและอาจจะยิ่งกว่ากฎระเบียบ ดังนั้น คนของดีอี ต้องทำงานในเชิงรุกให้ความรู้ประชาชน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อ เพราะดิจิทัลมาเร็ว ไปเร็ว" รมว.ดิจิทัลฯ กล่าว


สำหรับโครงการใหม่ที่มองว่าน่าจะเป็นบทบาทของกระทรวงดิจิทัลฯในการริเริ่มอย่างเป็นรูปธรรมคือ การจัดตั้งศูนย์สกัดกั้นข่าวปลอม (Fake News Center)โดยหลังจากนี้จะหารือกับหน่วยงานในสังกัดเพื่อหาแนวทางดำเนินการโดยจะเน้นในเรื่องข่าวที่มีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง เช่นการแชร์ข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกต่อภัยพิบัติตามธรรมชาติ หรือโรคติดต่อ,ข่าวยั่วยุที่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม และเสียหายต่อบ้านเมือง,ข่าวปลอมที่เสื่อมเสียต่อองค์กรและสถาบันอันเป็นที่เคารพของคนไทยพร้อมทั้งย้ำว่า แนวคิดนี้ไม่ใช่เพื่อมุ่งรังแกใคร


ทั้งนี้ยอมรับว่าการจัดตั้งส่วนงานขึ้นมาดูแลตรงนี้อาจใช้เวลา และมีข้อจำกัดด้านผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่าข่าวใดจริง ปลอม หรือมีทั้งจริงและปลอม ดังนั้นในเบื้องต้นอาจมีการประสานงานไปยังหน่วยงานภายนอก หรือกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อมาเป็นผู้ชี้แจงข่าวปลอมนั้นๆโดยทำการเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารของกระทรวงดิจิทัลฯ ยกตัวอย่างข่าวไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ก็จะประสานกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นผู้ชี้แจงข้อมูลเป็นต้น นอกจากนี้ ยังเตรียมศึกษาถึงการทำเทคโนโลยีอย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI)มาช่วยในการคัดกรองข่าวปลอมที่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายโซเชียลซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งแชร์ข่าวปลอมอันดับหนึ่ง

logoline