svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

'บรรจงจิตต์' ลุยแผนปั๊มยอด 'ส่งออก' โต 3%

18 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่ามกลางปัจจัยลบที่เข้ามากระทบต่อภาคการส่งออกสินค้าไทยในปี 2562 ทั้งปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบมายังการส่งออกสินค้าไทย ซึ่งล่าสุดตัวเลขการส่งออกช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) 2562 มีมูลค่า 1.01 แสนล้านดอลลาร์ ติดลบแล้ว 2.70% ทำให้บรรดาภาครัฐและภาคเอกชนต่างประเมินเป้าหมายการส่งออกปีนี้ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้



เริ่มตั้งแต่ ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ส่งออกปีนี้เติบโตเหลือ 4% จากเดิมที่เคยประเมินเติบโต 5% กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดเป้าหมายส่งออกขยายตัวเหลือ 3% จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายขยายตัว 8% ธนาคารแห่งประเทศไทย และศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ปรับลดเป้าส่งออกไม่ขยายตัว จากเดิมที่เคยการณ์ส่งออกเป็นบวก คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดเป้าหมายส่งออกติดลบ 1% ถึงขยายตัว 1% จากเดิมเคยประเมินการส่งออกเติบโต 3-5% สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ปรับลดส่งออกติดลบ 1% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัว 3-5% และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดส่งออกติดลบ 1.6% จากเดิมเคยประเมินส่งออกขยายตัวเป็นบวก 
ทั้งนี้ ภาคการส่งออกไทยในปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ  6 ปี โดยการที่ค่าเงินบาทไทยแข็งค่ากว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน และมีการส่งออกสินค้าชนิดเดียวกัน จะทำให้ราคาสินค้าไทยที่ส่งออกไปมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีค่าเงินอ่อนกว่าไทย หรือแข็งค่าน้อยกว่าไทย ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยลดลง และที่สำคัญยังทำให้ผู้ส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากการมีรายได้ที่ลดลงเมื่อนำเงินสกุลดอลลาร์ที่ได้รับชำระมาเป็นค่าสินค้าแลกกลับเป็นเงินบาทได้น้อยลง 
สำหรับ อัตราแลกเปลี่ยนของไทยเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน จะพบว่า ค่าเงินบาทไทยสิ้นเดือนมิ.ย.  2562 อยู่ที่ 3171 บาท/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยแข็งค่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน เว้นสิงคโปร์ที่มีอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าเท่ากันที่ 7% ส่วนมาเลเซียค่าเงินอ่อนค่า 2.3%เวียดนามอ่อนค่า 1.7% อินโดนีเซียแข็งค่า 1.4% เป็นต้น  

logoline