svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้

18 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผ่านมา 9 ปี เหตุการณ์สะเทือนขวัญคดี รถยนต์ ชนรถตู้บนทางด่วนโทลเวย์ จนมีผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย จนสุดท้ายศาลพิพากษาให้จำเลย เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กว่า 19 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายกลับยังไม่ได้รับการชดเชยแต่อย่างใด ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไร เราจะย้อนไปติดตามเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกครั้ง

เหตุสะเทือนขวัญ ครั้งนี้เกิดขึ้น เวลา 21.45 น. วันที่ 27 ธ.ค.2553 เมื่อ น.ส.แพรวาที่ขณะนั้นอายุไม่ถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค มาด้วยความเร็วสูงแล้วเสียหลักชนรถตู้โดยสารสายหมอชิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต บนทางด่วนโทลเวย์ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนผู้โดยสารเสียชีวิตในรถ และกระเด็นลงมาเสียชีวิตด้านล่าง รวม 9 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย รวมทั้งแพรวาด้วย
28 ก.พ.2554 ตำรวจสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องแพรวาต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
24 มิ.ย.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งแทนญาติผู้เสียชีวิต2 ข้อหา 31 ส.ค.2555 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาจำคุกแพรวา 3 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ให้รอลงอาญา 3 ปี และสั่งคุมประพฤติ 3 ปี ให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน พร้อมทำงานบริการสังคมด้วยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ 48 ชั่วโมง ห้ามขับรถจนกว่าอายุ 25 ปีบริบูรณ์

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้

22 เม.ย.2557 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้ไขจากรอลงอาญา 3 ปี เป็น 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี11 พ.ค.2558 ศาลฎีกาพิเคราะห์มีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย เนื่องจากคำร้องฎีกาไม่มีสาระสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลล่างที่ไม่รับฎีกาส่วนคดีแพ่ง ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ยื่นฟ้อง แพรวา พ่อและแม่ รวมทั้งนายสุพิรัฐ จ้าววัฒนา ผู้ครอบครองรถยนต์ เป็นจำเลย 1- 4 กระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 113 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
26 พ.ย.2558 ศาลพิพากษาให้ แพรวา พ่อแม่ และผู้ครอบครองรถ ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 ธ.ค.2553ศาลอุทธรณ์และฎีกาพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมเป็นเงินกว่า 19 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่หลังศาลฎีกามีคำพิพากษา วันที่ 8 พ.ค.2562 ผู้เสียหายทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางถวิล เช้าเที่ยง หรือแม่หนิง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/21 ต.หน้าเมือง องเมือง จ.ราชบุรี แม่ของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ ดร.เป็ด นักวิทยาศาสตร์ประจำ สวทช. เพิ่งจบการศึกษาปริญญาเอก จากประเทศอังกฤษ ที่เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 9 ศพ บอกว่าตั้งแต่เกิดเหตุคู่กรณีแค่มาร่วมงานศพเพียงวันเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่ออะไรอีกเลย แม้ว่าศาลจะตัดสินแล้วแต่ก็ยังไม่มีการติดต่อมา

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้

แม่หนิง บอกอีกว่า ตอนนี้รู้สึกอึดอัดมากเพราะอายุก็มากแล้ว ทางคู่กรณีจะเอายังไงขอให้มาพูดคุยกัน และก็ไม่เคยไปเรียกร้องอะไรเขามากมาย ซึ่่งตั้งแต่เกิดเรื่องทางญาติๆของคนตายทั้งหมดก็รวมกลุ่มกัน และตอนนี้ก็รอให้ทางคู่กรณีติดต่อมา และรอทางทนายด้วย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางทนายแล้วว่า ถ้าไม่มีการมาเยียวยาก็จะต้องให้มีการบังคับคดี เพื่อดูว่าเขามีทรัพย์สินอะไรบ้าง โดยทำตามขั้นตอนของศาลซึ่งก็ยังไม่รู้ว่านานแค่ไหน และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือไม่"ถ้าลูกชายยังอยู่ก็คงจะสบายกว่านี้ เพราะในช่วงที่ลูกเรียนจบมาก็อยากให้แม่เลิกร้อยพวงมาลัยขายในตลาดทรัพย์สิน เขตเทศบาลเมืองราชบุรี แต่แม่ยังทำไหวก็ขอทำไปก่อน ถ้าเลิกร้อยพวงมาลัยในวันที่ลูกขอให้เลิก วันนี้คงลำบากกว่านี้เพราะวันนี้ไม่มีลูกมาคอยเลี้ยงดูแล้ว และพี่น้องก็ตายหมดแล้ว เหลือเพียงแค่หลานสาวคนเดียวที่มาช่วยกันร้อยพวงมาลัยขายแบ่งข้าวกินกันไป ก็อยากให้แพรวาได้เห็นใจบ้างเพราะเวลาก็เนิ่นนานมาแล้ว"นางถวิล กล่าว

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้


ล่าสุดดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก "Nitipong Honark" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีของแพรวา ระบุว่า...

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้

สมัยก่อน...ฉันอึดอัดใจมาก...เวลาขับรถไปเฉี่ยวชนกับใคร...แล้วประกันมักจะสอนว่า อย่ายอมรับผิด...อย่าคุย อย่าขยับรถ ฯลฯ
คือ...บางทีเราผิดพลาดเอง รู้อยู่แก่ใจ ออกมาจากซอยไปชนรถเขาที่เป็นทางเอก...
จะทำหน้ามึน...เหรอ
แล้วก็จอดรถให้ค้างถนนอยู่ยังงั้น...รถติดชิบหายวายป่วง...คนอื่นเดือดร้อน
เพื่อจะโทรเรียกประกันมา...รอตำรวจมาฉีดสีกระป๋องที่พื้น...
สมัยนั้น...ถ้าฉันรู้ตัวว่าผิด...ฉันก็จะเขียนเบอร์โทรให้เจ้าของรถคู่กรณีเลย...แล้วรีบแยกย้าย ไม่ให้รถชาวบ้านเขาเดือดร้อน...ประกันฉันจะจ่ายไม่จ่าย เดี๋ยวฉันทะเลาะกับประกันฉันเอง...อย่างมากก็โดนเบี้ยประกันเพิ่มในปีหน้า...
สมัยนี้อาจจะง่ายขึ้นหน่อย..เพราะมีกล้องติดรถกัน...รู้ใครผิดใครถูกง่ายหน่อย...กรณีแพรวา...จำเลยที่หนึ่ง พ่อแม่ จำเลยที่สองสาม
เพื่อนที่ให้ยืมรถ จำเลยที่สี่...
ตามข่าว...อ่านสำนวนที่ฝ่ายจำเลยแถลงกลับ...มันต่อสู้กลับแบบจะเอาชนะอย่างเดียว ซึ่งก็ไม่ชนะ...และไร้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน
ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนายจำเลย น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้
บางทีอาจน่าจะเป็นจำเลยที่หนึ่งด้วยซ้ำ...

"ดี้" โพสต์ ทำไมฉันรู้สึกว่า...ทนาย "แพรวา" น่าจะเป็นจำเลยที่ห้า...ก็ไม่รู้


ไม่ได้บอกว่า แพรวา หรือพ่อแม่ ในตระกูลอะไรนั่นจะบริสุทธิ์สดใส
แต่รู้สึกได้ว่า....
จำเลยทั้งสี่...แพรวา พ่อ แม่ เจ้าของรถ...
เป็นจำเลยที่เกิดจากความผิดพลาด ประมาท
แต่รู้สึกได้ว่า....
เวลารถชน...แล้วเราเชื่อที่ประกันสอน ว่า อย่ายอมรับผิด...
ทนายความบางคนก็สอนแบบนั้นกับลูกความ...
ความเห็นส่วนตัวของฉันสำหรับเรื่องนี้...
แพรวา(หรือจะชื่ออะไรก็ตาม) ผิดตามศาลตัดสินแล้ว
พ่อแม่ จะนามสกุลอะไรก็ตาม...ฉันคิดเองว่า ก็เหลียวซ้ายแลขวา พึ่งแต่ทนายความ ทนายบอกว่าไง ก็ทำตามนั้น...
เลิ่กลั่ก....
ยิ่งคุณพี่คนที่ให้แพรวายืมขับรถ...ยิ่งเหวอ....ต้องเป็นจำเลยด้วย..
ความผิดพลาดรุนแรงที่เกิดขึ้นกับข่าวนี้คือ...
ตัวแพรวาและพ่อแม่...ไม่แสดงอาการไยดีอะไรเลย...ตลอดหลายปีที่ผ่านมา....ซึ่งอันนี้ ความผิดทางใจสังคม....รุนแรงมาก
คุณอาจไม่ต้องจ่ายเงินอะไรมาก ถ้าคุณแสดงความจริงใจไยดี เพราะผู้เคราะห์ร้าย เข้าใจดีว่ามันเป็นอุบัติเหตุ
คุณไม่ไยดี คุณสู้ทุกศาล....คุณเชื่อทนายของคุณ
เหมือนที่ฉันรถชนที่สี่แยก...รู้ว่าผิด
แต่ประกันบอกว่า อย่ายอมรับนะ....

logoline