ทั้งนี้ การหารือของ HLTF-EI เป็นการหารือในประเด็นเชิงนโยบายที่จะกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียนต่อไปในอนาคตซึ่งขณะนี้ถือว่าอาเซียนมีการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจตาม AEC Blueprint 2025มาได้ครึ่งทางนับตั้งแต่การเข้าสู่ AEC ในปี 2558 จึงต้องมีการทบทวนการดำเนินงานที่ผ่านมาว่ามีความคืบหน้าตามแผนงานไปมากน้อยเพียงใดรวมทั้งประเมินสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการค้าโลกที่จะส่งผลต่อการรวมกลุ่มของอาเซียนในอนาคตเพื่อจะได้วางแผนและกำหนดกลยุทธ์การทำงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้โดยในส่วนของเศรษฐกิจนั้น อาเซียนมีงาน 5 ด้านหลักที่ต้องประเมินความสำเร็จ คือ
1.การรวมตัวทางเศรษฐกิจ ได้แก่การเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนรวมถึงการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกทางการค้าและการปรับประสานมาตรฐานและกฎระเบียบต่างๆที่จะช่วยให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรี 2.การมีนโยบายและกฎระเบียบที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค เช่นนโยบายด้านการแข่งขันทางการค้า การคุ้มครองผู้บริโภค ทรัพย์สินทางปัญญา 3.ความร่วมมือระหว่างสาขาเศรษฐกิจ เช่น ด้านการขนส่ง โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะต้องมีการดำเนินงานร่วมกันมากขึ้น 4.การดำเนินงานที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ได้แก่ การเสริมสร้างบทบาทของเอสเอ็มอี และความร่วมมือกับภาคเอกชนและ 5. การบูรณาการกับเศรษฐกิจโลก ได้แก่ การจัดทำรวมทั้งยกระดับ FTA ที่อาเซียนมีอยู่กับคู่ค้านอกภูมิภาคของอาเซียน
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า คณะทำงานฯจะหารือเรื่องความคืบหน้าการศึกษาระบบบริหารจัดการกฎระเบียบของอาเซียนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสอดคล้องกับหลักสากลต่อไปโดยผลการศึกษาจะเสนอให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนรับทราบในการประชุมปลายปีนี้รวมทั้งจะได้หารือถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะใช้ดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับคู่ค้านอกภูมิภาคเพื่อใช้ประเมินคู่ค้าที่อาจเป็นคู่เจรจา FTA ของอาเซียนในอนาคตตลอดจนหารือรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานในประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่อาเซียนจะต้องดำเนินการให้สำเร็จในปีนี้(Priority Economic Deliverable) 3ด้าน รวม 13 ประเด็น