svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ก.ล.ต.ร่วมมือ ปปง.-ดีเอสไอ ป้องปรามกระทำผิดในตลาดทุน

15 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ก.ล.ต. ลงนามบันทึกข้อตกลงทวิภาคี 2 ฉบับ กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและการป้องปรามการกระทำผิดในตลาดทุน

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) แบบทวิภาคีจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ บันทึกข้อตกลงระหว่าง ก.ล.ต. กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)  ว่าด้วยการประสานความร่วมมือเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมุ่งให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานประสานความร่วมมือโดยใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของทั้ง 2 หน่วยงานซึ่งจะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและเป็นการป้องกันการใช้ผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.เป็นช่องทางในการฟอกเงินหรือสนับสนุนการก่อการร้าย

ทั้งนี้ จะสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจและการทำธุรกรรมต่าง ๆในตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

นอกจากนี้ ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างก.ล.ต. กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเป็นการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษเพื่อการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายมีความรวดเร็วและรัดกุมยิ่งขึ้นอีกทั้งครอบคลุมการให้ความร่วมมือด้านการสนับสนุนด้านบุคลากร องค์ความรู้และเทคโนโลยี ระหว่างกันเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในคดีพิเศษเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

"การลงนามในเอ็มโอยูทั้งสองฉบับถือเป็นมิติใหม่ของก.ล.ต. ในกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องปรามการกระทำผิดยกระดับความคุ้มครองผู้ลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนโดยเป็นการขยายขอบเขตความร่วมมือจากข้อตกลงฉบับเดิมที่จัดทำขึ้นกับ ปปง.และดีเอสไอในปี 2559 และ 2548 ตามลำดับเพื่อให้เกิดการทำงานร่วมในลักษณะบูรณาการที่ครอบคลุมสอดคล้องกับบริบทของกฎหมายในปัจจุบันและแนวโน้มการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยี" นางสาวรื่นวดีกล่าว

พลตำรวจตรีปรีชา เจริญสหายานนท์รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ  ปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวว่า ปัจจุบันโลกได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลทำให้ผลิตภัณฑ์ในด้านการเงินการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากโดยเทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยให้การทำธุรกรรมมีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น  อย่างไรก็ตามการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน เพราะอาชญากรเองได้มีพัฒนาการในการเรียนรู้การใช้ช่องโหว่ของเทคโนโลยีในการกระทำความผิดมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน  ดังนั้น ปปง. และ ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานผู้กำกับดูแลจำเป็นต้องมีข้อมูลและความรู้เท่าทันกับอาชญากรดังกล่าวจึงต้องยกระดับความร่วมมือและการประสานงานกันระหว่างสองหน่วยงานอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อให้มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงของประเทศมีความเข้มแข็งและได้รับการยอมรับมาตรฐานสากล

พันตำรวจเอกไพสิฐ  วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า15 ปี ที่ทั้งสองหน่วยงานได้ปฏิบัติงานร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ฯ รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนซึ่งถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและประชาชนจำนวนมากภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงการประสานความร่วมมือฉบับปี 2548โดยภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับปรับปรุงนี้ทั้งสองหน่วยงานจะให้ความสำคัญในเรื่องของวิธีปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดโดยเน้นการปฏิบัติงานเชิงรุกในทุกประเภทความผิดที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.ให้มากขึ้นรวมถึงการสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูลและการหารือระหว่างกันตั้งแต่ในชั้นก่อนที่จะเป็นคดีจนกระทั่งคดีถึงที่สุดเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในตลาดทุนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

logoline