พิษอาหารกลางวัน ศิษย์เก่ามเหยงค์ จี้ คืน ผอ.หลังส่อยืดเยื้อ

หลังจากการเปิดเผยปัญหาโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงค์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช รวมทั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการได้มาซึ่งผู้รับจ้างมาอย่างต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีการสรุปผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งได้สรุปเสนอต่อนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปแล้วตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว

วันนี้ได้มีการตรวจสอบล่าสุดพบว่าทิศทางของการดำเนินการยังคงยืดเยื้อและไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปกับผู้เกี่ยวข้อง ขณะที่เงื่อนเวลากำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 เกินกรอบระยะเวลา 7 วันไปอีก 1 สัปดาห์ ปรากฏว่ายังไม่มีการสั่งการใดๆกับเรื่องนี้ ทำให้ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนวัดมเหยงค์ เริ่มมีปฏิกิริยาเรียกร้องให้คืนผู้อำนวยการกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และเรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบภายนอกำเช่นปปช.เร่งตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

นายสุทัศน์ ลิมปิยะประพันธ์ ประธานชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงค์ ระบุว่าทุกฝ่ายติดตามมาโดยตลอดได้เวลาตามกำหนดแล้วคือ 7 วัน ผู้อำนวยการต้องกลับมารับตำแหน่งในหน้าที่เดิมเพราะการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยข้อเท็จจริงเราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ในการบริหารงานปปช.และองค์กรตรวจสอบต้องหาข้อเท็จจริงเพื่อแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีความยืดเยื้อข้ามสัปดาห์ทั้งที่กรอบเวลาชัดเจนคือ 7 วัน หลังจากนี้อาจดำเนินการบางอย่างเพื่อความถูกต้องและฟื้นฟูภาพลักษณ์ของโรงเรียนกลับมา

สำหรับการสอบสวนที่เกิดขึ้นนั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลสอบอย่างเป็นทางการเสนอต่อนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชแล้ว โดยมีสาระสำคัญได้มีการสรุปตัวเลขความเสียหายซึ่งจากเดิมข้อมูลก่อนหน้าระบุวันละ 5,400 บาท แต่เมื่อมีการสรุปเป็นเอกสารชัดเจนผลความเสียหายในวันที่ 28 มิถุนายน เหลือเพียง 2,850 บาท ส่วนวันที่วันที่ 1 กรกฏาคม เหลือเพียง 500 บาทเท่านั้นรวมสองวันเพียง 3,350 บาท

ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องระบุว่าการดำเนินการของโรงเรียน และผู้ที่ได้ตรวจคุณภาพอาหารได้บันทึกภาพและส่งข้อมูลการตรวจคุณภาพอาหารมาโดยตลอด โดยเฉพาะส่งไปยังไลน์กรุ๊ฟของผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลที่เกี่ยวข้อง โดยแสดงตัวอย่างหลักฐานการตรวจสอบคุณภาพอาหารมาอย่างต่อเนื่องเช่นข้อความอาหารมีแค่ผัก และกระดูกไก่ ข้ามคลุกกะปิ มีแค่พริก ไม่มีไข่ แต่ผู้มีอำนาจไม่ได้ให้ความสำคัญ และสั่งการใดๆแม้ทางโรงเรียนจะเข้าแจ้งด้วยวาจาซ้ำแล้วก็ตาม โดยผู้ที่อยู่ในไลน์กรุ๊ฟนี้ถึงขั้นพิมพ์ข้อความในฐานะผู้ปกครองเรียกร้องให้สงสารเด็ก เห็นนักเรียนเหมือนลูกของท่าน

.

.