ทำให้ผมต้องขออนุญาตชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับ พล.ท.วีรชน ว่าการพบปะหารือระหว่างพรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาของประเทศต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย และ พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party จะนำความรู้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นมาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนไทย
นายธนาธร ระบุว่า ขอเรียนว่านานาชาติให้ความสนใจการเมืองไทยอยู่แล้ว เพราะเราเป็นประเทศที่มีความสำคัญในอาเซียนและภูมิภาคอินโดแปซิฟิก การติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ จึงนับเป็นเรื่องปกติ ปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการเลือกตั้งก็มีการรายงานข่าวจากสื่อมวลชนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศมาโดยตลอด
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การพบปะพูดคุยระหว่างสมาชิกรัฐสภาและพรรคการเมืองของประเทศต่าง ๆ เป็นสิ่งปกติในระบอบประชาธิปไตย เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการผลักดันนโยบาย ยกตัวอย่าง เช่น พรรคกรีนของเยอรมนีมีประสบการณ์ในการผลักดันนโยบายสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลานาน พรรคอนาคตใหม่ต้องการเรียนรู้และร่วมมือกับพรรคกรีนเพื่อยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมของไทย ยิ่งภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เราต้องก้าวข้ามกรอบคิดเรื่องความมั่นคงแบบสงครามเย็นที่เน้นสร้างความหวาดกลัวเพื่อแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หันมาแสวงหาความร่วมมือนานาชาติและวางบทบาทของประเทศไทยให้เหมาะสม
"ผมและพรรคอนาคตใหม่ปรารถนาที่จะเห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยที่เรารัก เรายืนยันความสำคัญของกระบวนการประชาธิปไตยและระบบรัฐสภามาโดยตลอด ความน่าเชื่อถือหรือไม่น่าเชื่อถือของรัฐบาลย่อมเกิดแต่เนื้อในและการเลือกตัวบุคคลมาดำรงตำแหน่งบริหาร พรรคอนาคตใหม่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ระบุ