TI Expo 2019 "Synergy for Success" ภาพสะท้อนพลังเชื่อมโยง รากฐานสู่อนาคตอุตสาหกรรมไทย
จากการที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้เดินหน้านโยบาย Thailand 4.0 โดยการขับเคลื่อนและพัฒนาศักยภาพ ของภาคอุตสาหกรรมในทุกมิติ มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ ในการพัฒนาต่อยอด ภาคอุตสาหกรรมไทย รวมถึงการยกระดับภาคการเกษตรให้มีศักยภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานได้สร้างการ บูรณาการและการเชื่อมโยงในทุกภาคส่วน ผลจากความร่วมมือดังกล่าวในการขับเคลื่อนได้นำมาสู่การปูรากฐานความแข็งแกร่งของภาคเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก ไปจนถึงระดับประเทศ
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ข้อมูลว่าบทบาทหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมคือ การสร้างผู้ประกอบการไทย จึงมีโครงการสำคัญที่จะสร้างผู้ประกอบการใหม่ปีละหลายพันรายไปถึงหมื่นราย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลพวงมาจาการทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน
"จริงๆ เดิมกระทรวงอุตสาหกรรมรับผิดชอบผู้ประกอบการเอสเอ็มอีการผลิต การค้าและบริการ แต่ในปี 2559 เราได้รับมอบหมายจากท่านรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้มีการบูรณาการกับภาคต้นน้ำ ที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบเพิ่มด้วย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงมีพันธกิจในเรื่องของเกษตรอุตสาหกรรมเข้ามา" นายกอบชัย กล่าวต่อว่า"ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันโมเดลในการสร้างสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการใหม่ มีการนำเรื่องวิจัยและพัฒนามาส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้นำไปใช้ขยายผลมากขึ้น รวมถึงมีการเชื่อมโยงบูรณาการระหว่างกันจนมีเครือข่ายเกิดขึ้นมากมาย"
"Synergy for Success" ซึ่งเป็นแนวคิดของการจัดงาน Thailand Industry Expo ในปีนี้ จึงเป็นบทสะท้อนของการนำเสนอภาพรวมความร่วมมือที่กระทรวงอุตสาหกรรมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐเอกชน ภาคการศึกษาและวิชาการต่างๆ ที่เข้ามาช่วยกันเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการความร่วมมือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น"แต่ละปีมีความเปลี่ยนแปลง เราพยายามโฟกัสกรุ๊ปให้เกิดประโยชน์เฉพาะกลุ่มที่แท้จริง อย่างปีนี้จากการที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ไปทำเอ็มโอยูกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีผลงานวิจัย งานวิจัยบางชิ้นที่เคยอยู่บนหิ้งหรือลิ้นชักเราพยายามนำออกมา ขยายผล ซึ่งในงานนี้เราจะมีผลงานวิจัยมาแสดง เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจมาเลือกและนำไปใช้ได้เลย" อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าว
"สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ปีนี้จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็น big bother มากกว่า 50 รายที่เข้ามาแสดงในงานครั้งนี้ ซึ่งทุกวันนี้ big brother มีส่วนช่วยในเรื่องทรานเฟอร์เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อเนื่อง เหมือนกับพี่ที่พยายามจูงน้องไป เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และพัฒนาตัวเองให้เท่าทันศักยภาพ เอสเอ็มอีต่างประเทศ อย่างโตโยต้าจะมีโปรแกรมที่คิดขึ้นเอง มาช่วยลดความสูญเสีย เพิ่มผลิตภาพ หรือบริษัทเดนโซ่ ที่จะช่วยดูแลเรื่องออโตเมชั่นในระบบกระบวนการผลิต"นอกจากนี้ ในงาน Thailand Industry Expo 2019 นี้ ยังมีตัวอย่างสตาร์ทอัพไทยที่ประสบความสำเร็จ อยู่ในโซนสำคัญที่เรียกว่า Thai Entrepreneur Market ที่เป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสร้างสรรค์ และมีดีไซน์รูปแบบใหม่ ที่น่าสนใจมาจำหน่ายและจัดแสดงมากมายในพื้นที่ส่วนนี้
ยกตัวอย่างบริษัทโชคนำชัย หรือ SAKUNC ที่พัฒนาศักยภาพจากการเป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์รถยนต์ให้แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก และสามารถยกระดับการผลิตตัวถังรถยนต์และเรืออลูมิเนียมที่ขึ้นรูปโดยไม่ต้องเชื่อม ซึ่งเขาพร้อมจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เราดูในงานนี้" กอบชัย กล่าว
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่มากมายกว่า 400 ราย ทั้งยังมี Food Truck ที่น่าสนใจ รวมไปถึงการจัดสัมมนาหัวข้อต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กิจกรรม workshop และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ อาทิ Maker Society และคอนเสิร์ตจากหลากหลายศิลปิน ตลอดการจัดงานทั้ง 5 วันผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป สามารถมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยกับงาน Thailand Industry Expo 2019 ระหว่างวันที่ 17 - 21 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 20.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.thailandindustryexpo.com, www.dip.go.th หรือ โทรศัพท์ 0 2202 4414-18