ทั้งนี้ เดิมสหรัฐฯกำหนดรายการสินค้าจำนวน 317 รายการในประกาศเพื่อเตรียมตอบโต้อียู เช่นตัวถังเครื่องบินโดยสาร ชิ้นส่วนประกอบ เครื่องบินจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสเยอรมนี และสเปน ตลอดจนชีส โยเกิร์ต น้ำมันมะกอก ผลไม้ บรั่นดีองุ่น เป็นต้น และล่าสุดได้เพิ่มเติมรายการสินค้าอีก89 รายการ เช่น เนื้อหมู ชีส มะกอก วิสกี้ และท่อเหล็ก รวมมูลค่ากว่า 2.4หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และจะเปิดให้แสดงความเห็นในเดือนส.ค.2562 ในสินค้า 89 รายการซึ่งเป็นรายการใหม่ จากนั้นจะเสนอให้อนุญาโตตุลาการ WTP พิจารณาเห็นชอบระดับความเหมาะสมและมูลค่ามาตรการที่จะใช้ตอบโต้ต่อไปแต่ USTR ระบุว่าหากอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดก่อนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการขึ้นภาษีนำเข้าตามรายการเดิมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐทันทีโดยคาดว่าอนุญาโตตุลาการ WTO จะเผยแพร่ผลการพิจารณาในเดือนก.ย.2562
ส่วนอียูได้มีการประกาศร่างรายการสินค้าที่จะขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯเช่นกันเมื่อเดือนเม.ย.2562 ที่ผ่านมา เช่น ซอสมะเขือเทศ ถั่ว น้ำส้ม ช็อกโกแลตและวอดก้า มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการตัดสินของ WTOเมื่อปี 2555 ที่อียูยื่นฟ้องสหรัฐฯให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะบริษัท โบอิ้งซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการบินของอียูซึ่งปัจจุบันอียูอยู่ระหว่างรอคำชี้ขาดจากอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับระดับของการตอบโต้ทางการค้าที่เหมาะสมเพื่อจะตอบโต้สหรัฐฯที่ไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO เช่นกัน
"หาก 2มหาอำนาจขึ้นภาษีตอบโต้ทางการค้ากันจริงตามที่ประกาศไว้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลก และประเทศต่างๆเนื่องจากรูปแบบการผลิตสินค้าในปัจจุบันมีหลายรายการที่เชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่การผลิตซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนไทยจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าทั้ง 2ฝ่ายจะสามารถเจรจาหาทางออกของปัญหาระหว่างกันได้หรือไม่หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อจะได้ลดความเสี่ยงทางการค้าและปรับตัวได้ทัน"นางอรมนกล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่า กรณีพิพาทระหว่าง2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เป็นการตอกย้ำความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นธรรมและความเท่าเทียมโดยประเทศสมาชิก WTO จำเป็นต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางการค้าระหว่างประเทศเนื่องจากการละเมิดข้อผูกพันหรือพันธกรณีของ WTO อาจส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทเพื่อให้คณะผู้พิจารณาและองค์กรอุทธรณ์ของ WTO ตัดสินและอาจมีผลสืบเนื่องไปถึงการอนุญาตให้ตอบโต้ทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีสินค้าสำคัญหากผู้แพ้คดียังคงยืนกรานไม่ปฏิบัติให้สอดคล้องกับคำตัดสินก็จะส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจการค้าและภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีการค้าโลก