svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ชื่มชม "กฤษฎา บุญราช" รมว.กษ. จริงใจแบนสารเคมี อย่างรอบครอบ รอบด้าน

09 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ควรยกเลิกสารเคมีเกษตร 3 ชนิดอย่างยิ่ง ต่อเมื่อมีสารทดแทน ซึ่งเชื่อว่ามี และหากหน่วยงานไหน ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ยังไม่สามารถหาสารทดแทนได้ ทำให้ชักช้า หน่วงเหนี่ยว ไปเพื่อประการใด พวกเขาเหล่านั้นต่างหากที่ควรถูกตั้งคำถาม

ท่ามกลางความพยายามในการแบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย ซึ่งจะสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่คัดค้านการแบนสารเคมี และกลุ่มที่เห็นด้วยกับการแบนสารเคมีการเกษตร
กลุ่มที่คัดค้านคือกลุ่มเกษตรกรที่นำโดยสภาเกษตรกรแห่งชาติ ส่วนกลุ่มที่เห็นด้วยกับการแบนสารเคมีคือ ภาคประชาสังคมที่นำโดยมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย ทั้งยังมีอีกหลายหน่วยงานสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแพทย์ หรือนักวิชาการต่างๆ ที่ทำงานวิจัยด้านการปนเปื้อนสารเคมีในพื้นที่ ที่พบข้อเท็จจริงตรงกันว่า ในพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรที่ใช้สารเคมี จะพบสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และพบสารเคมีตกค้างในเลือด นี่ยังไม่นับรวมการตรวจพบสารตกค้างในพืชและผัก อีกเป็นจำนวนมาก
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏเหล่านี้นำมาสู่การตั้งคำถามว่า จนถึงขณะนี้เหตุใดจึงยังไม่มีการแบนสารเคมี 3 ชนิดอย่างเด็ดขาด ซึ่งหลายฝ่ายก็กดดันไปทั้งคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีหน้าที่ห้ามการนำเข้าสารเคมีเหล่านี้โดยตรง รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีอำนาจเต็มในการประกาศยกเลิกการใช้
ในเมื่อมติคณะกรรมการวัตุอันตรายไม่แบนสารเคมีเกษตร ก็ทำให้เกิดคำถามเรื่องการเอื้อประโยชน์นายทุนนำเข้าสารเคมี แต่เมื่อจะแบนสารเคมี เกษตรกรบางส่วนก็ไม่ยอม เกษตรที่ออกมาค้านการแบนสารเคมี ถูกภาคประชาสังคมมองว่ามีส่วนกับนายทุนไปอีก เรื่องราวเบื้องหลังเหล่านี้ ยังจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องได้รับการตรวจสอบต่อไป
แต่ในฐานะนักข่าว การทำข่าวแถลงในห้องสี่เหลี่ยม หรือการรอให้มีความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่างๆ แล้วไปสัมภาษณ์ ไม่อาจทำข่าวนี้ได้อย่างลุ่มลึก เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีวาระชัดเจนว่าใครใส่หมวกอะไรในการออกมาเคลื่อนไหว คำถามที่เราอยากรู้คือ เกษตรกรจริงๆ ที่ไม่ใส่หมวกอะไร จะคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร
เป็นความตั้งใจของการทำสารคดีเชิงข่าวเรื่องสารเคมีเกษตร ที่ตัดคนคุ้นหน้าในการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ออกไป แล้วเล่าเรื่องจากคนในพื้นที่เพียวๆ เป็นเรื่องยากเหมือนกันว่าจะมีความรอบด้านหรือไม่ แต่ก็ลองทำดู
เมื่อลงไปในพื้นที่ แบบไม่ได้ตั้งเป้าหมาย สุ่มลงไปอย่างทั่วถึง ก็ได้เห็น การระบาดของแมลงชนิดใหม่ๆ ได้เห็นการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ผลผลิตเสียหายจากที่ได้ลงทุนไปตั้งแต่ต้น ได้เห็นปัญหาหนี้สิน และความต้องการของตลาด ต่างๆเหล่านี้บีบครั้นให้เกษตรกร จำเป็นต้องใช้สารเคมี แม้จะรู้ว่าเสี่ยงก็ตาม ...
และทางออกของเรื่องนี้ ไม่ใช่การสาดโคลนใส่กัน ไม่ใช่การป้ายสีกัน แต่การตั้งคำถามเกี่ยวกับ "สารทดแทน สารเคมี" ว่าคิดค้นได้แล้วหรือยัง ? เป็นคำถามที่ต้องถามดังๆ ในช่วงเวลานี้ และถ้ามีแล้ว..ต้องรีบนำมาใช้และยกเลิกสารเคมีทันที
หลังจากการรายการชั่วโมงสืบสวน ที่ทำเรื่องสารเคมีเกษตรออกอากาศไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม เช้าวันที่ 8 กรกฎาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กฤษา บุญราช ส่งไลน์ถึงกลุ่มผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ระบุ
"ด่วนที่สุด ขอให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตรหรือผู้เกี่ยวข้อง ช่วยกันพิจารณาหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่า
1.ปัจจุบันมีสารธรรมชาติหรือวิธีการกำจัดวัชพืชอื่นใดที่สามารถใช้แทน 3 สารเคมีดังกล่าวได้หรือยัง2.ตามกฎหมายวัตถุอันตรายและหรือกฎหมายอื่นๆ รมว.กษ.มีอำนาจออกคำสั่งห้ามใช้หรือห้ามนำเข้าสารเคมีทั้ง 3 ชนิดได้ทันทีหรือไม่
ถ้ามีองค์ประกอบครบทั้ง 2 ข้อ นายกฤษฎา บุญราช รมว.กษ.จะใช้อำนาจตามกฎหมายนั้นสั่งหยุดหรือห้ามนำสารเคมีทั้ง 3 ชนิดเข้ามาในประเทศทันที เพราะรมว.กระทรวงเกษตรฯก็ไม่ต้องการทำร้ายประชาชนเช่นกันครับ"
ไม่มีใครรู้ว่า รมว.กฤษฎา ได้ดูรายการในคืนก่อนหรือไม่ แต่สิ่งที่ท่านสั่งการนั้นตรงจุดมาก และอยากเขียนชื่นชมท่าน ให้กำลังใจท่านในวาระสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง รมว.กษ. มา ณ โอกาสนี้ ซึ่งตามรายงานข่าวท่านขีดเส้น 7 วัน และตั้งใจจะเซ็นลงนามในระหว่างที่ยังอยู่ในวาระรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ
สุดท้ายนี้ผมย้ำอีกครั้งว่า ควรยกเลิกสารเคมีเกษตร 3 ชนิดอย่างยิ่ง ต่อเมื่อมีสารทดแทน ซึ่งเชื่อว่ามี และหากหน่วยงานไหน ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ยังไม่สามารถหาสารทดแทนได้ ทำให้ชักช้า หน่วงเหนี่ยว ไปเพื่อประการใด พวกเขาเหล่านั้นต่างหากที่ควรถูกตั้งคำถาม
#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV

logoline