เปิดค่าตอบแทน "ข้าราชการการเมือง" แบ่งเค้ก ส.ส.อกหัก

หนึ่ง คือ การหารือหลักเกณฑ์ที่จะให้ ส.ส.ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อแก้ปัญหารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำสอง คือ การหารือประเด็น ส.ส.สามารถไปดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้หรือไม่สำหรับประเด็นแรก ค่อนข้างชัดเจนว่า "ว่าที่รัฐมนตรี" ที่เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ น่าจะต้องลาออก เพื่อดันผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับถัดไปขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน จะทำให้เสียงสนับสนุนในสภาไม่ขาดไป มิฉะนั้นรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.จะโหวตไม่ได้ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงของตนเองส่วน ส.ส.เขตไม่ต้องลาออก เพราะต้องเลือกตั้งซ่อม ซึ่งหลักเกณฑ์นี้เป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์วางเอาไว้ คาดว่าพรรคพลังประชารัฐน่าจะนำมาใช้ด้วย

ส่วนประเด็นที่สอง การให้ ส.ส.ไปดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้ปัญหา ส.ส.อกหัก ผิดหวังจากการไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี เรื่องนี้แม้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย นายวิษณุ เครืองาม จะชี้ชัดว่าเรื่องนี้สามารถกระทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้เพียงว่า ส.ส.ห้ามเป็นข้าราชการ แต่ไม่ได้ห้ามเรื่อง "ข้าราชการการเมือง" ดังนั้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี และผู้ช่วยรัฐมนตรี ส.ส.เป็นได้ทั้งหมด

แต่แม้จะมีคำการันตีจาก "กูรูกฎหมาย" แต่ก็ยังมีความกังวล โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้มีการทักท้วงประเด็นนี้ เนื่องจากมองว่าหากนักการเมืองไปสั่งข้าราชการ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา เพราะอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ฉะนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์จึงยังไม่สรุปเรื่องนี้ ต้องรอรับฟังความเห็นของสมาชิก รวมถึงผู้ใหญ่ภายในพรรคก่อน

สำหรับตำแหน่งข้าราชการการเมืองต่างๆ มีทั้งตำแหน่งเก่าและตำแหน่งที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ แต่ละตำแหน่งมีค่าตอบแทนแตกต่างกันไป จริงๆ แล้วตำแหน่ง "ข้าราชการการเมือง" ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.2535 มีด้วยกัน 20 ตำแหน่ง จะไม่พูดถึงตำแหน่งนายกฯ และรัฐมนตรี จำนวน 36 คน เพราะถือเป็นสุดยอดปรารถนาของนักการเมืองอยู่แล้ว แต่จะพุดถึงเฉพาะตำแหน่งอื่นๆ ที่จะนำมาเฉลี่ยกันในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะคนที่อกหัก ผิดหวัง เช่น เลขาธิการนายกฯ รองเลขาธิการนายกฯ เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขาฯรัฐมนตรี ที่ปรึกษา โฆษก และผู้ช่วยรัฐมนตรี

สำหรับตำแหน่ง "ผู้ช่วยรัฐมนตรี" ถือเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมืองใหม่ เพิ่งตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ตามที่ได้รับมอบหมายในการอำนวยการบริหารประเทศหรือการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ใน ครม.ชุดหนึ่งจะมีผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ 30 คน เรียกรวมๆ ว่า "กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี" มีทั้งที่เป็นส่วนกลาง และแยกไปตามกระทรวงต่างๆ ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกต่อท้ายเป็นชื่อกระทรวงนั้นๆ เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีได้รับเงินเดือน 60,000 บาท