พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่า จะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเร็วๆนี้จากนั้นจะทำเรื่องขอวัน-เวลา การเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่เกินกลางเดือนนี้ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐบาล พร้อมยืนยันการตั้งรัฐบาลช้าไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน เพราะมีการเตรียมตั้งงบประมาณไว้แล้ว สามารถใช้งบปี 62ไปก่อนได้โดยตั้งไว้ไม่เกิน 50% ของงบปี 62 จึงไม่ห่วงว่าฝ่ายค้านจะตีรวนแต่คนที่จะเสียประโยชน์คือประเทศชาติและประชาชน
ดังนั้นใครที่จะตีรวนเรื่องนี้ขอให้คิดให้ดี และหากงบประมาณไม่ผ่าน สิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชนก็จะทำไม่ได้ อีกทั้งขออย่าให้การประชุมสภาฯเป็นประเด็นการเมือง ทั้งนี้ ยอมรับเห็นใจนักการเมืองที่ไปหาเสียงกับประชาชนไว้แต่เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องทำอยู่ในกรอบงบประมาณที่มีอยู่โดยเชื่อมั่นทุกพรรคการเมืองรักชาติรักประชาชนกันทั้งหมด
นายกฯ ยังบอกด้วยว่า ตลอดการทำงาน 5 ปี ไม่เหนื่อยกับการทำงาน ถ้าจะมีก็เหนื่อยใจ ที่อยากทำอะไรให้แล้วเสร็จโดยเร็วแต่บางเรื่องติดขัดกฎหมายงบประมาณ สิ่งสำคัญคือการแสดงความคิดเห็นทั้งในและต่างประเทศต้องคำนึงถึงประเทศไทยด้วย ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกระบวนการภายในโดยเฉพาะข้อกฎหมาย หากพูดในเรื่องไม่จริงและบิดเบือน ก็จะทำให้ประเทศเสียหายไม่มีความเชื่อมั่น และไม่ได้รับความเนื้อเชื่อใจ
พร้อมกล่าวย้ำว่าที่ผ่านมาได้แก้ปัญหามากแล้วแต่อาจจะไม่เข้าใจ ซึ่งการปฏิรูปการเมืองไม่ใช่แค่รัฐบาลทำฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองและนักการเมืองต้องพัฒนาปรับปรุง อย่าใช้เวทีสภาล้มรัฐบาล แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ระหว่างรอมีรัฐบาลใหม่ จะไม่ใช้คำสั่งตามมาตรา 44อีก เพราะไม่สมควร
สำหรับการประชุม ครม.วันนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ นายกฯ บอกว่า ไม่มีแล้วมั้ง ซึ่งหลังการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ถ้าเป็นไปได้ก็มีแนวคิดที่จะคุยกับรัฐมนตรีใหม่ เหมือนการปฐมนิเทศแต่คงใช้เวลาไม่นาน ขณะเดียวกันปฏิเสธตอบคำถามว่าเชื่อที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศจะวางมือทางการเมืองหรือไม่โดยระบุแค่ว่า "ถามเขาสิ"