ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ หวัง จนท.ถ่วงดุลความปลอดภัย จ่านิว กับเสรีภาพทำกิจกรรมการเมือง

นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวถึงคดีรอบทำร้าย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ว่า รัฐไทยมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลพลเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เชียร์หรือคัดค้านรัฐบาลสามารถแสดงออกได้อย่างสันติโดยปลอดภัย และดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กรณีของจ่านิว รวมถึง นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ถูกทำร้ายก่อนหน้านี้ต่อเนื่อง 17 ครั้ง สะท้อนว่าคนที่เห็นต่างหรือคัดค้านรัฐบาลไม่มีความปลอดภัย เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยที่จับคนร้ายไม่ได้ แม้แต่คดีของจ่านิว ที่ได้รับความสนใจจากสังคมและนานาชาติเป็นอย่างมาก ที่บอกว่าสเก็ชรูปคนร้ายได้แต่คนร้ายใส่หมวกกันน็อค ก็คงจะเป็นรูปคนใส่หมวกกันน็อค ซึ่งไม่ตอบอะไรเลย ทั้งที่ควรมีความคืบหน้ามากกว่านี้ มีการสอบสวนที่เชื่อมโยงให้เห็นถึงการทำร้ายที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ไม่ใช่แค่ตัดตอนที่คดีของจ่านิว นอกจากนี้ อีกไม่กี่วันจ่านิว จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีหลักประกันมากน้อยแค่ไหนในการดูแลความปลอดภัยเมื่อถามว่า ขณะนี้มีตำรวจไปดูแลความปลอดภัยที่โรงพยาบาลแล้ว นายสุณัย ยอมรับว่า เพิ่งไปเยี่ยมจ่านิวมา ก็เห็นเจ้าหน้าที่มาดูแล แต่ที่กังวลคือ เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว มาตรการดูแลความปลอดภัยจะจัดอย่างไร ที่ไม่ใช่กลายเป็นการคุมตัวจ่านิวไปโดยปริยาย โดยอ้างว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย แต่ทำให้จ่านิวไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ ซึ่งจ่านิว ครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมคุ้มครองสิทธิ จะต้องพูดคุยกันและถ่วงน้ำหนักเรื่องความปลอดภัย และเสรีภาพในการทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไปนายสุณัย ยังหวังด้วยว่า รัฐบาลจะขยายผลคดีนี้ต่อไป รวมไปถึงคดีทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมืองคนอื่นๆด้วย ที่ต้องนำคนร้ายมาลงโทษ ส่วนจะจับคนร้ายคดีจ่านิวได้หรือไม่ ขณะนี้นี้ก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นมากนัก เพราะยังไม่เห็นการขับเคลื่อนของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาตำรวจไทยมีผลงาน มีฝีมืออย่างมาก ถ้าหากตั้งใจจะจับก็จับได้อย่างรวดเร็ว แต่ครั้งนี้ยังไม่เห็นการยกระดับความสนใจที่จะจับกุมคนร้ายคดีจ่านิวแนะนำกิจกรรมคนอื่นๆสำหรับอาการของจ่านิวนั้น นายสุณัย บอกว่า การหายใจทางจมูกคล่องขึ้นแล้ว แต่ตาขวา ยังมีปัญหาเรื่องการมองเห็น ซึ่งแพทย์คาดว่าต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 6 เดือน