6 ล้อ เกี่ยวที่นั่งรอรถเมล์พังถล่มทับสาววัย 24 บาดเจ็บ

ส่งผลให้มีผู้รอรถโดยสารได้รับอาการบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากซอยรามอินทรา ระหว่าง 80 - 82 ถนนรามอินทรา (ฝั่งขาเข้า) มุ่งหน้ากม.8 ใกล้ทางเข้าสดพ.บางชัน แขวงและเขตคันนายาว กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบป้ายรถประจำทาง ซึ่งปลูกสร้างด้วยโครงเหล็ก และมุงหลังคาด้วยแผ่นกระเบื้องพังถล่มลงมาทั้งหลัง และทับผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ศิริรัตน์ หรือมุข สัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี สภาพนอนแน่นิ่งจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าผากเป็นทางยาว โดยหนังศรีษะเปิดถึงกระโหลก เจ้าหน้าที่ฯ ต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 63-9474 กรุงเทพมหานคร ของบริษัททรู ลีสซิ่ง จำกัด จอดอยู่ริมฟุตปาธ ที่บริเวณมุมตู้บรรทุกฝั่งซ้ายมีร่องรอยบุบ ซึ่งเกิดจากการเฉี่ยวชนโครงเหล็กหลังคาป้ายรถประจำทาง ก่อนหักโค่นพังถล่มลงมา ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายเอกชัย สุขเกษม อายุ 34 ปี ให้การว่า ตนเป็นคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ย่านรามอินทรา เพื่อไปรับพนักงานที่ยืนรออยู่ที่ป้ายรถประจำทางจุดเกิดเหตุ เมื่อขับออกมาจากถนนหม่อมเจ้าสง่างามสุประดิษฐ์ ก่อนเลี้ยวซ้ายมาจอดและขยับรถ จู่ๆ ตู้บรรทุกได้เกิดไปเฉี่ยวชนกับโครงเหล็กหลังคาที่พักโดยสาร ก่อนพังลงมาทับคนขณะกำลังนั่งรอรถประจำทางตามปกติ จนกระทั่งได้รับอาการบาดเจ็บดังกล่าว

ทางด้านนายจักริน หรือแจ๊ค เผือกพิพัฒน์ อายุ 34 ปี (แฟนหนุ่ม) ของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ขณะนี้แฟนสาวได้พ้นขีดอันตรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจากทีมแพทย์ได้ช่วยกันปฐมพยาบาล พร้อมทั้งทำการเย็บบาดแผลกว่า 80 เข็ม ทั้งนี้ จากการสอบถามเหตุการณ์จากแฟนสาวให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นั่งรอรถประจำทางเพื่อไปรับสินค้าแฟชั่น ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จู่ๆรถคู่กรณีได้ขยับเพื่อมาจอดเทียบริมฟุตปาธ แต่ชิดจนเกินไป จนทำให้ตู้บรรทุก ชนเข้ากับหลังคาที่พักผู้โดยสารอย่างจัง จนเป็นเหตุให้ป้ายรถประจำทางพังถล่มลงมาทั้งหลัง และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป