ผู้อำนวยการสำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "Business Networking" ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจ SMEs ของไทยก็ยังมีปัญหาหลายประการ เช่น ด้านการตลาด ขาดแหล่งเงินทุน ขีดจำกัดด้านการบริหารและการจัดการ ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่ช่วยแก้ปัญหา Pain Point เหล่านี้ให้กับ SMEs หลากหลายตามศักยภาพกลุ่ม SMEs
สำหรับโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูป กลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ กลุ่มบริการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ GDP ของประเทศ
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า กิจกรรม "Business Networking" ในวันนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ SMEs จะได้เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ การเพิ่มช่องทางการตลาดโดยเฉพาะตลาดในประเทศที่ยังเป็นตลาดสำคัญของ SMEs ซึ่งสินค้าจำต้องได้มาตรฐาน มีเอกลักษณ์ของตนเองและแตกต่าง เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและที่สำคัญคือเทคโนโลยีทางการเงินที่ปัจจุบันสามารถตอบโจทย์สำหรับธุรกิจได้อย่างลงตัว ความคล่องตัวและการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการทางการเงิน แหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมศักยภาพ SMEs ให้เข้มแข็งขึ้น โดยคาดว่าจะสร้างโอกาสทางการค้าหรือการลงทุน ที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย (Networking) อย่างน้อย 20 ล้านบาท
"สสว. คาดหวังว่าผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย(Networking) เพื่อเชื่อมคู่ค้าธุรกิจในด้าน FINTECH ด้านนวัตกรรมและด้านการตลาด เพื่อยกระดับศักยภาพธุรกิจ สร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป" นายสุวรรณชัย กล่าว
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ พานิชชีวะ รองประธานคณะกรรมการสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่ากิจกรรม "Business Networking" ที่จัดขึ้นในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี 2562 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นการต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มทั่วไป ให้มีศักยภาพมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการตลาดและการเงิน ซึ่งมี SMEs เข้าร่วมสร้างเครือข่ายธุรกิจกว่า 130 ราย กิจกรรม Business Networking ในวันนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ เน้นการเชื่อมโยง SMEs ใน 3 ด้าน คือ การเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศให้กับ SMEs กลุ่ม Start up ด้าน FINTECH ที่มีเทคโนโลยีทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ ให้ SMEs ได้เลือกใช้บริการ และเชื่อมโยงผู้ให้บริการด้านนวัตกรรม ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับ การทำธุรกิจในปัจจุบัน
"นอกจากการส่งเสริมผู้ประกอบการภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) แล้ว สถาบัน SMI ยังมีกิจกรรมอื่นที่จะส่งเสริม SMEs อีกหลายหลายกิจกรรมไม่ว่าการส่งเสริม SMEs เข้าสู่องค์กรนวัตกรรม การให้ความรู้สำหรับการค้าต่างประเทศ การส่งเสริมการตลาดในรูป OMNI Channel เป็นต้น ซึ่งในฐานะของภาคเอกชนเราต้องการการส่งเสริม SMEs อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศ" นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าว