โดยแผนการขยายธุรกิจของเทสโก้โลตัสใน 3 ปีจากนี้ จะเน้นการขยายสาขาของเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ที่ปัจจุบันมีอยู่ 1,600 สาขา เพิ่มขึ้นอีก 750 สาขา โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 5 - 10 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดร้านเอ็กซ์เพรสรูปโฉมใหม่ไปแล้ว 30 สาขาและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ควบคู่ไปกับการปรับปรุงสาขาเดิมให้เป็นรูปแบบใหม่ ส่วนสาขาขนาดใหญ่ได้เริ่มดำเนินการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปแล้ว 20 สาขา ส่วนธุรกิจออนไลน์ก็จะมีการขยายพื้นที่ให้บริการมากขึ้น ผ่านทั้งทางช่องทางของเทสโก้ โลตัสเอง และออนไลน์มาร์เก็ตเพลสชั้นนำของประเทศ
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทเทสโก้ ได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจค้าปลีกในแต่ละประเทศภายใต้นโยบาย ฟอร์ ทูเดย์ (For Today) เพื่อให้กิจการค้าปลีกในแต่ละประเทศสามารถปรับรูปแบบการดำเนินกิจได้ตามความเหมาะสมและตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศนั้นๆ ที่มองหาความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น
สำหรับการดำเนธุรกิจภายใต้นโยบาย ฟอร์ ทูเดย์ ของเทสโก้ โลตัสในไทย เป็นการปรับตำแหน่งทางการตลาดครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี โดยจะมุ่งให้บริการจำหน่ายสินค้ากลุ่มพร้อมรับประทาน(เรดดี้ ทู อีท) เพิ่มขึ้น 200-300 รายการ โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 10-15% จากเดิมเทสโก้ฯ ให้บริการภายใต้แนวคิด ฟอร์ เลเทอร์ (For Later) เน้นกลุ่มสินค้าอาหารสด (Fresh Food) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของสาขาขนาดใหญ่ พร้อมทั้งให้บริการ ร้านกาแฟ Tesco Coffee โดยใช้ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟจากดอยตุง บริการไปรษณีย์ 24 ชั่วโมงโดยไปรษณีย์ไทย
การปรับสู่รูปแบบของเทสโก้ฯ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเป็นกำลังซื้อในอนาคตที่จะขยายตัวไปสู่ความเป็นเมืองต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น โดยในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือในปี พ.ศ. 2573 ประชากรไทยจะอาศัยอยู่ในเมืองเพิ่มเป็น 60% จากในปัจจุบันอยู่ที่ 50%