"พลังประชารัฐ" เกิดไม่ถึงปี ก็เข้าขั้นโคม่า!

เมื่อความขัดแย้งจากการจัดสรรคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นชนวนสร้างแรงกระเพื่อม ถ่างรอยร้าวระหว่างก๊วนในพรรคให้ยิ่งร้าวหนักเข้าไปอีก ออกแนวต่างคนต่างมองหน้ากันไม่ติดไล่ตั้งแต่ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สายกทม. อดีตแกนนำกปปส. ที่มีส.ส.กทม. และมีภาคกลางบางส่วนรวมอยู่ในก๊วน ที่แน่ๆ 2 แกนนำมีแววได้เก้าอี้รัฐมนตรีไปครอง อาจจะด้วยบุญเก่าหนุนนำ เมื่อคราวออกหน้าทุ่มสุดตัวเป่านกหวีดไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กลุ่ม 4 กุมาร ที่มีพี่ใหญ่ อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นำทีม ก็ถือว่าตัวเองมีเครดิตพอจะเอามาเคลมตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ 2 โดยเฉพาะผลงานด้านเศรษฐกิจ ที่ทีมนี้ปลุกปั้น ทั้งโครงการขนาดใหญ่ สาธารณูปโภค ด้านสวัสดิการสังคม อย่างบัตรคนจน เป็นต้น
กลุ่มสามมิตร ที่เป็นอีกกำลังสำคัญในการสู้ศึกเลือกตั้ง มีส.ส.ในมือจำนวนหนึ่ง ย่อมมองว่ากลุ่มตัวเองก็ควรจะได้รับตอบแทนแบบสมน้ำสมเนื้อบ้าง
ส่วนกลุ่มภาคกลาง 16 ส.ส. นำโดย เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ท่าทีดูจะอ่อนลงไปเยอะ แม้กำลังชวดตำแหน่งรมว.แรงงาน เช่นเดียวกับสายอีสานตอนบน นำโดย เอกราช ช่างเหลา และกลุ่มส.ส.ใต้ ที่ยอมสยบ ยุติการเรียกร้องใดๆแต่กลุ่มสามมิตร นัดถกส.ส.ในกลุ่ม 30 คน จากทั้ง 4 ภาค แสดงพลัง เชื่อในรายชื่อโผครม. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยึดโผครม.เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ควบพลังงาน สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม อนุชา นาคาศัย รมช.คลัง
หนำซ้ำ การที่ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. เด็กในสายสามมิตร ลั่น จะยื่นญัตติไล่ เลขาธิการพรรคพปชร. เหตุ บริหารงานผิดพลาด ไม่เห็นหัวส.ส. พรรคอยู่ในขั้นวิกฤติ ยังไม่ให้ปรึกษา จนพรรคแตก
สะพัด กรณีนี้เกิดจากกระแสข่าวที่มีการเปิดเผยกันออกมาว่า "สนธิรัตน์" วิ่งล็อบบี้กับคนใกล้ตัวนายกฯ เพื่อให้สลับรายชื่อเป็น รมว.พลังงาน แทน "สุริยะ"
เรียกว่าพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรก เมื่อ 29 ก.ย.61 สู้ศึกเลือกตั้ง จนสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ไม่สามารถฝ่าวิกฤติเรื่อง จัดสรรรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลได้
พูดง่ายๆ ว่า พรรคน้องใหม่ ที่เกิดขึ้นมายังไม่ทันไร แถมอายุยังไม่ถึงขวบปี ก็ดันต้องประสบกับภาวะโคม่าเข้าขั้นอาการหนัก ชนิดถอด สายออกซิเจน ปุ๊บ อาจต้องมีอันเป็นไปในทันที หรือถ้ากลุ่มใดในพรรคแยกตัว ก็อาจจะทำให้พรรคล้มไปเลยก็ได้