ในการประชันวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเดโมแครต 10 คนเมื่อคืนวาน ไบเดน วัย 76 ปีที่มีคะแนนนิยมอันดับหนึ่งจากบรรดาผู้สมัครกว่า 20 คน เผชิญการโจมตีจากคู่แข่งในประเด็นจุดอ่อนทั้งเรื่อง อายุมาก ผิวขาว และนักการเมืองหน้าเก่า และหนึ่งในช่วงไฮไลท์สำคัญ คือ ช่วงที่กมลา แฮร์ริส วุฒิสมาชิกจากรัฐแคลิฟอร์เนียและผู้สมัครเชื้อสายแอฟริกันคนเดียวบนเวที กดดันไบเดนให้ชี้แจงเกี่ยวกับความเห็นของเขาสมัยเป็นวุฒิสมาชิกเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ที่แสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายบังคับให้เด็กนักเรียนขึ้นรถประจำทางไปโรงเรียนเพื่อลดการแบ่งแยกสีผิวและลดความเหลื่อมล้ำและเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังกล่าวชื่นชมอดีตวุฒิสมาชิกอีกสองคน ซึ่งสนับสนุนการแบ่งแยกสีผิว
ขณะที่ไบเดน วัย 76 ปี กล่าวว่า แฮร์ริสกำลังตีความจุดยืนของเขาแบบผิดๆ และยืนยันในผลงานของตัวเองเรื่องสิทธิพลเมือง โดยอ้างว่า สิ่งที่เขาต่อต้านไม่ใช่นโยบายการใช้รถรับ-ส่งนักเรียน แต่เขาไม่เห็นด้วยกับการออกคำสั่งจากส่วนกลางโดยกระทรวงศึกษาธิการ เพราะจริงๆ ควรจะเป็นคำสั่งจากหน่วยงานในท้องถิ่นมากกว่า
แต่แฮร์ริสแย้งว่า หากรัฐบาลท้องถิ่นล้มเหลวในการบังคับใช้นโยบาย ก็ควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลางในการเข้ามาแทรกแซงในการดีเบทรอบนี้มีผู้สมัครชิงเป็นตัวแทนพรรคเข้าร่วม 10 คน ซึ่งรวมถึงวุฒิสมาชิก เบอร์นี แซนเดอร์ส ตัวเก็งสูงวัยอีกคน ซึ่งมีคะแนนนิยมเป็นอันดับสอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดีนักในการประชันวิสัยทัศน์ นอกจากนี้ยังมีวุฒิสมาชิกไมเคิล เบนเน็ตวุฒิสมาชิกเคียร์สเตน กิลลิแบรนด์ และจอห์น ฮิคเคนลูเปอร์ อดีตผู้ว่าการรัฐโคโลราโด
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอยู่ร่วมการประชุมจี20 ในญี่ปุ่น ทวีตแซวไบเดนและแซนเดอร์สว่า "ได้ข่าวว่าไม่ใช่วันที่ดีนักสำหรับโจขี้เซา หรือ เบอร์นีคนบ้าคนหนึ่งก็หมดแรง อีกคนก็บ้า ไม่มีอะไรน่ากังวล"ก่อนหน้านี้มีผู้สมัครเดโมแครตอีก 10 คนร่วมดีเบทเมื่อคืนวันพุธ และฮูเลียน คาสโตรผู้สมัครชาวละตินเพียงคนเดียว และมีคะแนนนิยมเพียง 1% สามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้ดีจนหลายคนถึงกับประหลาดใจ โดยเฉพาะเมื่อเขาตอบคำถามเรื่องนโยบายผู้อพยพ และกล่าวถึงประเด็นการเสียชีวิตของผู้อพยพสองพ่อลูกขณะพยายามข้ามแม่น้ำเข้าสู่สหรัฐ