อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่ในปี 2553 ถูกองค์การยูเนสโกจัดให้เป็นมรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตรายระบบนิเวศของอุทยานในพื้นที่ลุ่มน้ำแห่งนี้ ถูกทำลายมานานเกือบ 10 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจร่วมมือกับรัฐบาลระบายน้ำออกจากเอเวอร์เกลดส์เพื่อการพัฒนาพื้นที่ทำให้กระแสน้ำที่ไหลเข้าสู่เอเวอร์เกลดส์ลดลงถึง 70% และคุณภาพของน้ำก็ลดลงด้วย เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ของอุทยานจึงทำงานกันอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ
เจ้าหน้าที่อุทยาน กล่าวว่า จำนวนนกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำเป็นตัวบ่งชี้สภาพความสมบูรณ์ของลุ่มน้ำ และการแพร่พันธุ์ของงูหลามพม่า ซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่นรุกราน เป็นปัญหาใหญ่คุกคามเอเวอร์เกลดส์เดิมมีกฎหมายฟื้นฟูอุทยานในปี 2543 แต่ขาดงบประมาณสนับสนุน ล่าสุดเมื่อเดือน มี.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จัดสรรงบประมาณฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์จำนวน 63 ล้านดอลลาร์หรือ 1,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเพียงหนึ่งในสามของบที่สมาชิกสภารัฐฟลอริดาและนักสิ่งแวดล้อมร้องขอ