เรื่องนี้แม้ว่า "ลุงป้อม" ออกมาแก้เกม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสงสัยหมดไปง่ายๆ คนไทยยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของเทพโจ๊กช่วงนี้ต่อไปเป็นพิเศษ
มนต์แดนใต้
ช่วงวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา เราเห็น "บิ๊กโจ๊ก" ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ อดีตผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบ.สตม.) ที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
ภาพที่เจ้าตัวรายล้อมไปด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตำรวจภูธรนครศรีฯ ตำรวจท่องเที่ยว มาต้อนรับและอำนายความสะดวก ก็ทำให้บรรยากาศเก่าก่อนในวันที่เคยหวานเจี๊ยบหวนกลับมาอีกครั้ง
แต่พอได้รู้ถึงวาระที่ไปเยือนเมืองคอนรอบนี้ คนไทยก็ยิ่งได้กลิ่นแปลกๆ เพราะวันนั้นเทพโจ๊กมาเพื่อเดินสายสักการะ ทั้งศาลหลักเมือง พระบรมธาตุเจดีย์ ราวกับว่าต้องการพลังบางอย่างจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ปรากฏเสร็จกิจแล้ว เทพโจ๊กกลับเข้ากรุงเทพฯ แล้วรุ่งขึ้นก็หวนกลับมาที่นครศรีธรรมราชอีกรอบยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่า หรือจะบนบานศาลกล่าวไว้ พอได้ดังขอ ก็รีบแจ้นมาแก้บนยังไงยังงั้น ข่าวลือต่างๆ ก็ยิ่งโหมแรงขึ้น
แต่จะมีความแปลกก็ตรงที่ว่า รอบหลังนี้เทพโจ๊กมาแบบเงียบๆมีเพียงนายตำรวจที่ใกล้ชิดคอยติดตาม และยังระมัดระวังไม่ให้มีการบันทึกภาพอีกด้วย
แน่นอนมุมนี้ ว่ากันว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องได้สั่งระงับขบวนรถทั้งหมด ทั้งรถนำ และรถติดตาม เพื่อไม่ให้เกิดเป็นคำถาม
แต่ข่าวลือมุมหนึ่งก็เม้าท์ว่า รอบนี้บิ๊กโจ๊กมีการสั่งให้ลูกน้องนำเครื่องแบบตำรวจใหม่ มาใช้ประกอบพิธีเพื่อเอาฤกษ์บางอย่างตามความเชื่อโบราณ ที่สถานที่แห่งหนึ่งใน ต.กะปาง อ.ทุ่งสง อีกด้วย
จริงเท็จประการใด ว่าไป แต่มุมหนึ่งเรื่องนี้ก็ไปสอดคล้องกับข่าวลือที่ว่า เทพโจ๊กจะได้โอนตำแหน่งกลับมานั่งเก้าอี้ในสตช. อีกครั้งจริงๆ จึงมาเพื่อขอพร หรือแก้บน แล้วแต่จะคิด
แต่อีกมุมหนึ่งก็อาจเป็นความเคลื่อนไหวปกติ เพราะ 3 เดือนก่อนที่่จะมีคำสั่งฟ้าผ่า คนคอนยังเห็นเจ้าตัววนเวียนเข้าวัดโน้นวัดนี้อยู่เลย ก่อนกลับกรุงเทพฯหลังจากที่มีคำสั่งแล้ว
และเรื่องเข้าวัดทำบุญที่นครศรีฯ เทพโจ๊กก็มาบ่อยๆเช่น องค์พระบรมธาตุเจดีย์, ศาลหลักเมือง, วัดถ้ำภูเขาเหล็ก, ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล เฉกเช่นคนทั่วไปที่มักจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือบูชาในชีวิต
เทพโจ๊กคนเดิม
เสร็จกิจรอบหลัง บิ๊กโจ๊กเข้ากรุง แม้จะปรากฏแต่เสียงให้สัมภาษณ์รายการ"ล่าความจริง"ทางเนชั่นทีวี แต่ก็นับเป็นที่แรกที่เขามาเคลียร์ทุกคำถาม
จับความดู เหมือนไม่มีอะไรลึกซึ้ง แต่ถ้าจับความเคลื่อนไหวมาประกอบ จะพบว่านี่เป็นครั้งแรกหลังเกิดเรื่องที่บิ๊กโจ๊กคุยเป็นคุ้งเป็นแคว ทั้งที่3 เดือนก่อนยังเงียบกริบอยู่เลย !
แถมก่อนนั้นนิดเดียว ในกระแสความร้อนแรงบิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็ออกมาเปิดประชุม แล้วมีวาระถอดชื่อบิ๊กโจ๊ก พ้นอนุกรรมการ ก.ตร.แล้ว
ดังนั้นพอบิ๊กโจ๊กจ้อยาวรอบนี้ จึงเหมือนออกมาสำทับว่า ที่สงสัย สงกากันนั้น ไม่มีอะไรลึกลับและการที่ชื่อของเขายังอยู่ในคณะอนุกรรมการก.ตร.ก่อนนี้ ก็เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 2558 ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งผบ.สตม.
โดยตอนนั้นมีอนุกรรมการ ก.ตร. บางท่านลาออก แล้วก็ไม่ใช่แค่ "อนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและระเบียบ" ที่ตนเองได้รับอย่างเดียว ยังมีอีกหลายอนุกรรมการ ที่ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ลงนามอีกด้วย เหมือนจะบอกว่าไม่ได้เป็นคนพิเศษ !
ส่วนการถอดชื่อออกไปครั้งนี้ ก็ถูกต้องแล้ว เพราะงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย มันล้นจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นทั้งเรื่องปัญหาหนี้นอกระบบ, อาชญากรรม คอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ แถมยังยืนยันว่า ที่ย้ายมาไม่ได้เป็นการเด้งฟ้าผ่าอีกด้วย
"เราเป็นข้าราชการของแผ่นดินในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นผมทำหน้าที่ ทำงานทุ่มเทเหมือนเดิม เพื่อพัฒนาแผ่นดิน เปรียบเหมือนผู้เล่นฟุตบอลก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย"
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ หายเงียบ ไม่พบสื่อ เพราะเป็นข้าราชการต้องมีวินัย เมื่อนายมอบหมายอะไร ก็ต้องทำอย่างเคร่งครัด
แล้วกรณีที่มีภาพว่าเดินทางไปทำบุญที่นครศรีธรรมราชนั้น ยืนยันว่าเป็นคนชอบทำบุญ มีโอกาสก็ไปไหว้ไปกราบ แต่ไม่ได้ทำพิธีกรรมอะไรไม่มีรถนำขบวน หรือมีข้าราชการตำรวจต้อนรับ เพราะเป็นคนสมถะ
เทพโจ๊กเขาแจงมายิบอย่างนี้ คนไทยไม่ตอบไรมาก นอกจากบอกคำเดียว ว่ารอดู !!
*****************///*****************