สภาทนายความชี้ รับพัสดุยาเสพติด ต้องแจ้งความทันที

จากกรณีที่มีข่าวตำรวจปราบปรามยาเสพติดภาค 6 บุกจับ นางประชุม อายุ 61 ปี มารดาของนายตำรวจ ระดับสารวัตรคนดังเมืองปากน้ำ ขณะออกจากหน้าบ้านมารับกล่องพัสดุของไปรษณีย์ ซึ่งพอเปิดกล่องพบว่าเป็นยาไอซ์ 50 กรัมและยาอีสีขาว จำนวนกว่า 50 เม็ด จึงถูกตำรวจจับไปดำเนินคดี และก่อนหน้านี้ ยังมีข่าวว่าสาว ปวช. วัย 22 ปี เซ็นรับพัสดุแบบเดียวกัน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวไปดำเนินคดีหลังเปิดมาเจอยาไอซ์ 10.3 กรัม จึงมีคำถามตามมาว่าถ้าผู้รับพัสดุปลายทางนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายที่ส่งมาจากต้นทาง อีกทั้งไม่เคยรู้จักกับผู้ส่งพัสดุดังกล่าวเลย กรณีอย่างนี้ผู้รับพัสดุจะป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาร่วมหรือสมรู้ร่วมคิดได้อย่างไร
เรื่องนี้ อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความ นายทัศไนย ไชยแขวง อธิบายว่า ถ้าเกิดประชาชนได้รับพัสดุที่เป็นยาเสพติด อันดับแรกที่ต้องทำคือ ให้รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในกรณีที่เราทราบเอง หลังจากนั้นก็จะเข้าสู้กระบวนการสอบสวนตามกฎหมาย
แต่กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นตามข่าวนั้น ตำรวจอาจจะได้เบาะแสมาจากสายข่าวว่า จะมีพัสดุที่เป็นยาเสพติดมาส่งที่บ้านเลขที่นี้ จึงมีการไปดักรอเพื่อจับกุมมาดำเนินคดี. ซึ่งตำรวจอาจจะไม่รู้ว่าผู้ที่รับพัสดุปลายทางเป็นคนสั่งของมาจริงหรือไม่ หรืออาจจะถูกกลั่นแกล้ง จำเป็นต้องจับกุมเพื่อไปดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยจะต้องมีการสอบสวน การตั้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดี
แต่ถ้าประชาชนถูกจับกุมไปแล้ว สิ่งแรกต้องให้การปฏิเสธไว้ก่อน.และต้องให้ข้อมูลกับตำรวจมากที่สุดเท่าที่ให้ได้. รวมไปถึงพาญาติพี่น้องที่ไว้วางใจหรือจัดหาทนายความไปนั่งฟังคำสอบสวน เพื่อบอกเล่ากับตำรวจชั้นสอบสวนในการชั่งน้ำหนักเบื้องต้นได้ว่าท่านเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนี้หรือไม่
สำหรับขั้นตอนตามกฏหมายเมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ตำรวจต้องควบคุมตัวไปดำเนินคดี แต่กฎหมายก็ให้สิทธิ์ผู้ต้องหาในการประกันตัวได้ ซึ่งอาจจะต้องมีหลักทรัพย์หรือไม่มีหลักทรัพย์ก็ได้ แต่ถ้าเป็นกรณีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดส่วนใหญ่อัตราโทษสูง เพราะฉะนั้นต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว ซึ่งบางครั้งชาวบ้านอาจจะไม่มีหลักทรัพย์ที่จะประกันตัว แต่ภาครัฐก็มีทางออกให้โดยมีสำนักงานกองทุนยุติธรรมที่จะให้เงินประกันตัวในระหว่างการต่อสู้คดี ไม่ว่าจะเป็นในชั้นศาลหรือชั้นตำรวจ และถ้าประชาชนต้องการทนายความก็สามารถมาที่สภาทนายความประจำจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดหาทนายความให้สำหรับประชาชนที่ยากไร้และไม่ได้รับความเป็นธรรม