โดย นายชัยวุฒิ บอกว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลถือหุ้นสื่อจำนวน 32 คน แนวทางดังกล่าวทำให้ทีมงาน ฝ่ายกฎหมาย ของพรรคพลังประชารัฐ แล้วมาตรวจสอบคุณสมบัติของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ทั้งหมด 7 พรรค ที่เข้าข่ายเป็นเจ้าของและถือหุ้นกิจการสื่อมวลชน รวมทั้งหมด 33 คน เป็นพรรคอนาคตใหม่จำนวน 21 คน พรรคเพื่อไทย 4 คน พรรคประชาชาติ 1 คน พรรคเสรีรวมไทย 3 คน และพรรคเพื่อชาติ 4 คน
ซึ่งทางพรรคได้รวบรวมเอกสารข้อมูลไว้พร้อมแล้ว และจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันนี้ โดยประเด็นที่ยื่นก็จะเป็นเช่นเดียวกันกับที่ฝ่ายค้านยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบคุณสมบัติของพรรคฝ่ายรัฐบาล โครงการพรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้ยื่นผ่านทาง ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่จะไปยื่นกับทาง ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพื่อเป็นการไม่ต้องให้ทางประธานสภาเสียเวลาตรวจสอบข้อมูล ยืนยันว่าตามรัฐธรรมนูญได้มีการเปิดช่องทาง บุคคลเป็นผู้ยื่นเรื่องโดยตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้
ขณะที่นายทศพล บอกถึงการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ21 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ศาลรับคำร้องว่า ในส่วนนี้ทางพรรคได้มีระยะเวลาเตรียมความพร้อมไว้ โดยภายในอาทิตย์หน้ามาว่าศาลจะยังไม่มีคำสั่ง หรือส่งคำร้องมาที่พรรค แต่จะต้องมีการจัดทำต้นร่างแก้ไขข้อกล่าวหา ให้เสร็จสิ้นทุกคนก่อน โดยขณะนี้ยังมีปัญหาบางส่วนในเรื่องเอกสารที่ต้องขอจากหน่วยงานราชการ
ล่าสุด มีการเปิดเผยรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าข่ายเป็นเจ้าของหรอเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆอันขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)โดยประกอบด้วย
.