"สกาย ไอซีที เป็นผู้พัฒนา AOT Digital Platform ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ โดยรายได้มาจากผู้โดยสารใช้บริการผ่าน AOT Mobile Application ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นให้บริการกว่า 20 รายการ เช่น บริการข้อมูลเที่ยวบิน การจองที่จอดรถ สิทธิพิเศษเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆภายในสนามบิน การสะสมและแลกคะแนน เป็นต้น ซึ่ง AOT Mobile Application จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างสม่ำเสมอตลอดอายุสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป" นายสิทธิเดช กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทฯ เตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหญ่อีกโครงการทั้งในส่วนงานภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่าหลายพันล้าน ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ระดับโลก เพื่อที่จะรุกในธุรกิจสมาร์ท ซีเคียวริตี้ (Smart Security) ซึ่งเป็นบริการโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรและธุรกิจ โดยปัจจุบันบริษัทพร้อมที่จะขยายการให้บริการเต็มรูปแบบ และรุกเข้าไปสู่กลุ่มลูกค้าภาคเอกชน อาทิ กลุ่มห้างสรรพสินค้า คอนโดมีเนียม อาคารสำนักงาน โรงงานขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น
เช่นเดียวกับดิจิตอลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) นอกจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) แล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอโครงการทำ Digital Platform กับหน่วยงานภาครัฐอื่นอีกด้วยซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 3 นี้ รวมถึงวิทยุสื่อสารดิจิตอล (Digital Trunk Radio) ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมจะเข้าประมูลงานใหม่โดยการเข้าประมูลมีโอกาสที่จะเข้ารับงานเอง และร่วมมือกับพันธมิตร
ทั้งนี้สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องจากมูลค่างานที่ได้เซ็นต์สัญญาไปแล้วโดยจะทยอยรับรู้ตามสัญญาและการส่งมอบงาน ซึ่งการรับรู้ดังกล่าว ยังไม่นับรวมงานใหม่ที่บริษัทวางแผนจะเข้าไปประมูลแข่งขันอีกหลายโครงการในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการที่จะบริโภคไอทีมากขึ้น