svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

อาเซียนพร้อมใช้ระบบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง

26 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ แจ้งข่าวดีอาเซียนพร้อมใช้ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง หลังผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของอาเซียนจัดทำระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องเสร็จแล้ว เตรียมเสนอที่ประชุมคณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียนรับรองในเดือนก.ย. เพื่อให้ผู้ประกอบการอาเซียนได้ใช้ระบบฯ พร้อมกันภายในมี.ค. 63

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่า ผลการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยที่ประชุมฯประสบความสำเร็จในการปรับปรุงข้อกฎหมายของระเบียบปฏิบัติฉบับใหม่เพื่อรองรับระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน(ASEAN-wide Self-Certification: AWSC) และเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA Council) รับรองในระหว่างการประชุมซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายนนี้โดยอาเซียนจะเริ่มต้นใช้ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองพร้อมกันทั้ง 10ประเทศ ภายในเดือนมีนาคม 2563



ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาเซียนได้จัดทำโครงการนำร่องระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองจำนวน 2โครงการ โดยโครงการนำร่องฯ ที่ 1 เริ่มต้นในปี 2553 มีไทย สิงคโปร์ มาเลเซียกัมพูชา บรูไน และเมียนมาเป็นสมาชิก และโครงการที่ 2 เริ่มต้นในปี 2557 มีไทยฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สปป.ลาว และเวียดนามเป็นสมาชิก แม้ว่าโครงการนำร่องฯทั้งสองโครงการจะมีจุดประสงค์เดียวกันคือช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการให้สามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันเช่น คุณสมบัติของผู้ส่งออกที่ได้รับอนุญาตให้รับรองถิ่นกำเนิดสินค้าหรือจำนวนรายการสินค้าที่ผู้ส่งออกสามารถรับรองถิ่นกำเนิดได้




"หากผู้ประกอบการต้องการส่งออกภายใต้โครงการนำร่องใดก็จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการนำร่องฯ นั้นๆโดยไม่สามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าข้ามโครงการได้ ดังนั้นอาเซียนจึงได้รวมโครงการนำร่องฯ ทั้ง 2โครงการเข้าด้วยกันเป็นระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน (ASEAN-wideSelf-Certification) เพียงระบบเดียวซึ่งสมาชิกอาเซียนทั้ง 10ประเทศสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของอาเซียนได้ร่วมกันปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วและพร้อมเสนอระเบียบปฏิบัติในการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่ต่อที่ประชุมคณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียนในเดือนกันยายน"





อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการใช้ประโยชน์ภายใต้โครงการนำร่องระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองพบว่า ไทยเป็นประเทศที่มีผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนมากที่สุดเป็นอันดับ 1ในกลุ่มประเทศอาเซียนนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนำร่องฯ ในปี 2553 โดยปัจจุบันไทยมีจำนวนผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนรวมทั้งสิ้น 330 ราย อันดับที่ 2 ได้แก่มาเลเซีย 192 ราย และอันดับที่ 3 ได้แก่ สิงคโปร์ 74 ราย ทั้งนี้ คาดว่าเมื่ออาเซียนเริ่มต้นใช้ระบบASEAN-wide Self-Certification แล้วจะทำให้มีจำนวนผู้ส่งออกที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มขึ้นอีกทั้งจะช่วยส่งเสริมการค้าขายระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีความคล่องตัวมากขึ้นด้วย

logoline