ทั้งนี้ กรมฯได้วางกลยุทธ์การผลักดันการส่งออกตลาดอาเซียนในช่วงครึ่งปีหลัง2562 เป็น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างเครือข่าย ขยายการลงทุนและหนุนเจาะตลาดเมืองรอง สำหรับกลยุทธ์การสร้างเครือข่ายเน้นการสร้างเครือข่ายกับกลุ่มธุรกิจจากประเทศจีน ที่ย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียนเพื่อสนับสนุนสินค้าไทยเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าและบริการต่างๆ (ValueChain) เพิ่มมากขึ้นรวมทั้งสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและสมาคมการค้าของประเทศเพื่อนบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนยิ่งขึ้น
กลยุทธ์การขยายการลงทุน เช่นการส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจไทยในอาเซียน โดยเฉพาะ ตลาด CLMV เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) ในการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปการสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น Local to Global ผ่านการพัฒนาศักยภาพทั้งสินค้าและผู้ประกอบการและนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในกลุ่มประเทศอาเซียนการส่งเสริมการค้าชายแดนโดยการเพิ่มกิจกรรมให้นักธุรกิจตามแนวชายแดนได้พบปะเจรจาธุรกิจกันมากขึ้นและการส่งเสริมการส่งออกสินค้าใหม่ๆเช่น ซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปาภาพยนตร์ เกม แอนิเมชันต่างๆ เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์การบุกเจาะตลาดเมืองรองเช่น เมืองดาเวา ของฟิลิปปินส์ เสียมราฐของกัมพูชา สุราบายา ของอินโดนีเซีย ซาบาห์ซาราวักของมาเลเซีย มัณฑะเลย์ของเมียนมา ไฮฟองและเกิ่นเธอของเวียดนามและแขวงอุดมไชยของลาวพร้อมรักษาและส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการไทยอย่างต่อเนื่องผ่านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่น่าสนใจในระหว่างเดือนมิถุนายน สิงหาคม 2562 อาทิการนำนักธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมไทยสร้างเครือข่ายและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจฟิลิปปินส์ในเมืองดาเวา ระหว่างวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2562เพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทยพบปะและสร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจ/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยในฟิลิปปินส์และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ซื้อในฟิลิปปินส์ ส่วนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆเช่น การจัดกิจกรรมคณะผู้แทนการค้าธุรกิจอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ระหว่างวันที่ 27-29มิถุนายน 2562 คณะผู้แทนการค้าธุรกิจบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ ระหว่างวันที่ 24 -26กรกฎาคม 2562 และคณะผู้แทนการค้าธุรกิจภาพยนตร์ไทย ระหว่างวันที่ 28 -30 สิงหาคม2562 เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯจะนำผู้ประกอบการไทยในหลายภาคธุรกิจอาทิ อาหารและเครื่องดื่ม การเกษตร วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เป็นต้น เยือนเมืองโกตาคินาบาลูรัฐซาบาห์และเมืองคูชิง รัฐซาราวัก ระหว่างวันที่ 20 24สิงหาคม 2562เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการส่งออกสู่ตลาดมาเลเซียฝั่งตะวันออกสร้างพันธมิตรและเครือข่ายการค้าและการลงทุนกับนักธุรกิจมาเลเซียรวมถึงสามารถวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะของตลาดเพื่อให้การนำเข้าสินค้าไทยสู่ตลาดดังกล่าวและขยายการดำเนินธุรกิจของไทยสู่เมืองรองที่มีศักยภาพของมาเลเซีย
"ตลาดอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตอีกมากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงมุ่งหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ขยายการค้าสู่เมืองรองต่างๆ ของกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นต่อไป"