หวยบนดินที่บอร์ดกองสลากกำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้ มีส่วนคล้ายกับหวยบนดินที่คณะรัฐมนตรียุคนายทักษิณ อนุมัติให้ดำเนินการเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 เพราะมีการจำหน่ายเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว และมีรางวัลแจ็คพ็อตเหมือนกัน
แต่จุดที่ทำให้ "หวยบนดิน" ในครั้งนั้นถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ และยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต / มีเหตุผล 2 ประการ คือ
1. นายทักษิณเสนอเรื่องเข้า ครม.เป็นวาระจร เพื่อเร่งรัดดำเนินการโดยไม่รอการจำหน่ายผ่านเครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่มีการศึกษาทั้งข้อกฎหมายและผลกระทบทางสังคมหากดำเนินการรูปแบบนี้ แต่นายทักษิณก็ยังสั่งดำเนินการทันที โดยขายหวยบนดินงวดแรกวันที่ 1 สิงหาคม 2546 ไม่รอเครื่องจำหน่ายสลาก
2. การนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหวยบนดินหลังหักค่าใช้จ่ายให้รัฐบาลนำไปใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมและสาธารณกุศลได้ทันที เข้าข่ายขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองสลาก แต่กลับไม่มีการแก้ไขกฎหมายก่อนดำเนินการ / และวิธีการจำหน่าย "หวยบนดิน" ก็เหมือนหวยใต้ดินที่ผิดกฎหมาย เข้าลักษณะเป็น "เจ้ามือรับกินใช้" ส่งเสริมให้เกิดการพนันขันต่อ มอมเมาประชาชน
และ 3. การออกสลากหวยบนดินมีผลขาดทุน 7 งวด เป็นเงินกว่า 1,668 ล้านบาท นอกจากนั้นกองสลากยังได้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารออมสินประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสำรอง แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้มีความเสี่ยง แต่ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงเหมือนขั้นตอนการออกสลากตามปกติ
คดีนี้ ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกนายทักษิณ เป็นเวลา 2 ปี และให้ออกหมายจับนายทักษิณมารับโทษตามคำพิพากษา เพราะเจ้าตัวหลบหนี
สรุปจากคำพิพากษาก็คือ จริงๆ แล้ว "หวยบนดิน" สามารถทำได้ หากดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แก้ไขกฎหมายกองสลาก แบ่งสัดส่วนรายได้ให้ชัดเจน เหมาะสม และไม่ดำเนินการแบบ "กินรวบ" เหมือนหวยใต้ดิน