"ที่ประชุมได้มีการพูดคุยในประเด็นที่อาเซียนยังมีท่าทีต่างกันและตกลงที่จะมอบให้คณะเจรจาของอาเซียนไปหารือเพื่อหาท่าทีร่วมกันเช่น เรื่องกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า และการลงทุน เป็นต้น ก่อนพบกับคู่เจรจาอีก 6ประเทศ (ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์) ต่อไปโดยอาร์เซ็ปมีกำหนดพบหารือในระดับคณะเจรจาอีก 3 ครั้ง ที่ประเทศออสเตรเลีย จีนและเวียดนาม และระดับรัฐมนตรีอีก 2 ครั้ง ที่ประเทศจีน และไทย" นางสาวชุติมา กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมได้เน้นย้ำให้สมาชิกอาเซียนเพิ่มความพยายามในการหารือกับสมาชิกอาร์เซ็ปอื่นๆในเรื่องที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการเปิดตลาดสินค้า บริการและการลงทุน ตลอดจน 13 ข้อบทที่ยังเหลืออยู่ให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้การที่อาเซียนสามารถมีท่าทีร่วมกันได้ในการเจรจาหลายๆเรื่องจะช่วยขับเคลื่อนการเจรจาอาร์เซ็ปในภาพรวมให้คืบหน้าไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ขณะเดียวกันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนในภูมิภาคของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่อไป
สำหรับ อาร์เซ็ปมีประชากรกว่า 3,560ล้านคนหรือเกือบครึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 10.3ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 29 ของมูลค่าการค้าโลก โดยในปี 2561ไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปมีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 2.9 แสนล้านดอลลาร์คิดเป็นร้อยละ 59.7 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 12.6สำหรับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปที่ไทยส่งออกมากที่สุด ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่นออสเตรเลีย ตามลำดับ โดยสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก