svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ๊กตู่" ยินดีที่ได้รับไว้วางใจทำหน้าที่ต่อ

21 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กตู่" พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปาฐกถา วง "ผู้นำธุรกิจอาเซียน" ยัน ไทย มีเสถียรภาพ ก้าวพ้นความไม่สงบ เผย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากปชช. ให้ทำหน้าที่ต่อ ลั่น จากนี้จะเป็น "นายกฯ" เรียบร้อย อะไรไม่สำคัญ ไม่ตอบ

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.62 เวลา เวลา 09.00 น. ที่โรงแรม Waldorf Astoria ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวปาฐกถาในการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 (The Fifth Bloomberg ASEAN Business Summit ABS) เนื่องในโอกาสการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5
หัวข้อ "The Future of Thailand and ASEAN" ซึ่งถือเป็นเวทีแรกของพล.อ.ประยุทธ์ในการเปิดตัวและแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีนักลงทุนต่างประเทศ หลังรับโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง

"บิ๊กตู่" ยินดีที่ได้รับไว้วางใจทำหน้าที่ต่อ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานการประชุมผู้นำธุรกิจอาเซียน ครั้งที่ 5 และนำเสนอความคิดเห็นในหัวข้อ "The Future of Thailand and ASEAN" ที่สำนักข่าว Bloomberg จัดขึ้น ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและสำคัญต่อประเทศไทยและอาเซียน เนื่องจากประเทศไทยรับหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ สำหรับวิสัยทัศน์สำหรับประเทศไทย นั้น ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในหลายด้าน ที่จะเดินหน้าพัฒนาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าพร้อมกับภูมิภาค
"ปัจจุบัน เหตุการณ์ในประเทศมีเสถียรภาพ โดยไทยได้ก้าวพ้นสถานการณ์ความไม่สงบ มีความปรองดอง และสามารถแก้ปัญหาคั่งค้างที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น การประมงผิดกฎหมาย การปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างเป็นระบบ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ เป็นต้น ที่สำคัญต่อประชาชนชาวไทยมากก็คือ การที่เราได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งทั่วไปตามกระบวนการประชาธิปไตยด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามโรดแม็พที่กำหนด ซึ่งช่วยให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ และผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ และจะพยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสืบสานนโยบายพัฒนาประเทศ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ดัชนีเศรษฐกิจต่าง ๆ ของไทยบ่งชี้ว่า สถานการณ์ในประเทศดีขึ้นมาก เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 ถือเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 ปี มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ระดับ 2.53 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 3.8 ซึ่งสูงที่สูดในรอบ 6 ปี เช่นกัน สำหรับภาคการท่องเที่ยวก็เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทยถึง 38 ล้านคน ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 2.9 ล้านคนจากปีก่อนหน้า และปีนี้คาดว่าเราจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวถึง 40 ล้านคน ซึ่งจะเป็นอีกแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ เสถียรภาพด้านต่างประเทศยังแข็งแกร่ง สะท้อนจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง และเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ให้ความสำคัญในการดูแลขั้นตอนกระบวนการอนุญาตต่าง ๆ รวมถึงกฎระเบียบในการทำธุรกิจ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม ซึ่งเป็นที่น่ายินดี ที่ในการจัดอันดับความสะดวกในการประกอบธุรกิจในปี 2561 ของธนาคารโลก ประเทศไทยปรับดีขึ้นมาอยู่อันดับที่ 27 จากทั้งหมด 190 ประเทศ สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 19 อันดับ และเป็นอันดับที่ 3 ในอาเซียน และเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน ในช่วงที่พัฒนาการทางเทคโนโลยีได้ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจและการเติบโตของประเทศ ไทยจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศให้เอื้อต่อการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมและรองรับอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการเป็นระเบียงเศรษฐกิจแห่งเอเชีย ซึ่งระยะแรก เราได้เร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการผลิต การค้า และการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ประกอบการไทยให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่มูลค่าโลกได้ดีขึ้น โดยรัฐบาลเตรียมที่จะใช้รูปแบบการพัฒนานี้ ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่นของประเทศด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อให้นโยบายในการพัฒนาประเทศมีความต่อเนื่อง ประเทศไทยได้กำหนด ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขึ้น เพื่อเป็นกรอบในการทำงานและนำพาให้ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม แต่ต้องยอมรับว่า แม้ผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยจะลดลงต่อเนื่อง จากร้อยละ 57.07 ของประชากร ในปี 2533 เหลือร้อยละ 7.87 ในปี 2560 แต่ไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศทั่วโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้ไทยตระหนักว่า การพึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยไม่เร่งสร้างความเข้มแข็งและภูมิต้านทานจากภายใน จะทำให้ประเทศถูกกระทบได้ง่าย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเข้าใจถึงหัวใจของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างลึกซึ้ง ในเรื่องของการพึ่งพาตนเองภายใต้ความพอประมาณและความมีเหตุผล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่จุดยืนที่จะสนับสนุนกระบวนการของอาเซียนให้ก้าวหน้าต่อไปจะคงเดิม เพราะสมาชิกอาเซียนตระหนักดีว่า อาเซียนที่แข็งแกร่ง คือผลประโยชน์แห่งชาติ ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ได้นำเสนอแนวคิดหลัก คือ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกับทั้งมิตรประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ และ หลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ไทยจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำ G20 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประธานอาเซียน โดยจะย้ำหลักการสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างเสรี เปิดกว้าง ครอบคลุม ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ตามแนวคิดหลักของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทย เพื่อให้เกิดความ ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน กับมิตรประเทศนอกภูมิภาคสำหรับไทยเอง
"เรามีความพร้อมทั้งในแง่พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี เสถียรภาพทางการเมืองที่นำไปสู่ความต่อเนื่องของนโยบาย ซึ่งรัฐบาลใหม่ก็พร้อมสานต่อนโยบายที่ได้วางรากฐานไว้ ซึ่งขอให้ใจเย็นๆ เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งในรัฐบาลใหม่ พูดไว้อย่างไรก็ต้องทำแบบนั้นจึงขอให้ภาคเอกชนเชื่อมั่นและใช้ประโยชน์จากโอกาสและความพร้อมของไทยและอาเซียน ในการขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับหุ้นส่วนภาครัฐและดูแลภาคเอกชน ทั้งในและนอกภูมิภาคบนพื้นฐานของหลักการ 3M คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน สำหรับการประชุมในวันนี้ ผมขอให้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหยอกล้อกับผู้ร่วมสัมนา ว่า ความจริงวันนี้ไม่ได้อยากพูดยาว แต่ก็อยากคุยเพราะไม่ได้พูดคุยมาหลายวัน ก่อนหน้านี้คุยกันแต่เรื่องปัญหา หลังจากนี้จะเป็นนายกฯที่เรียบร้อย เรื่องอะไรไม่สำคัญก็จะไม่ตอบ

logoline