อีกแล้ว! "น้องมาเรียม" เกยตื้นเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา

(20มิ.ย.62) ตามที่นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้ใช้แผนจัดเวรยามร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ออกตรวจลาดตระเวนเฝ้าระวังลูกพะยูน (น้องมาเรียม) วัยเพียง 5-6 เดือน ที่ได้รับการดูแลอนุบาลโดยเจ้าหน้าที่บริเวณอ่าวดูหยง ใกล้เขาบาตูมาเกือบ 2 เดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา
โดยทีมสัตว์แพทย์ทั้งจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่ลิบงเลือกที่จะอนุบาลมาเรียมในพื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด ในระบบเปิดในทะเล ซึ่งมีแหล่งหญ้าทะเลอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับพะยูน และมีฝูงพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอาศัยอยู่หวังให้มาเรียมเติบโตมากับธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ตัวเอง

แต่ขณะนี้มาเรียมยังเป็นพะยูนวัยเด็กต้องกินนมแม่ เจ้าหน้าที่จึงต้องป้อนนม ป้อนหญ้าให้ทุกวัน เพื่อให้เติบโตและช่วยตัวเองเข้ากับฝูงธรรมชาติได้ แต่มาเรียมตัวน้อยยังไม่สามารถเรียนรู้ธรรมชาติของตัวเอง เหมือนอยู่กับแม่ โดยเฉพาะไม่รู้จักน้ำขึ้นน้ำลงที่ตัวเองจะต้องอยู่ในที่ปลอดภัย เมื่อเป็นช่วงน้ำใหญ่เข้ามาใกล้ฝั่งแต่พอถึงช่วยที่น้ำทะเลลงต่ำสุดมาเรียมน้อย จึงไม่รู้จักพาตัวเองออกไปตามน้ำไปอยู่ในที่ปลอดภัยหรือร่องน้ำลึกเหมือนธรรมชาติของพะยูน จึงเกยตื้นให้เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนช่วยเหลือได้เกือบทุกคืน ท่ามกลางความเป็นห่วงของทุกฝ่าย เพราะเกรงมาเรียมจะถูกคลื่นซัดหลุดไปเกยตื้นพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่บริเวณอ่าวดูหยง ซึ่งจะหาตัวไม่พบ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 04.30น. ของวันนี้ (20 มิย.) เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งออกลาดตระเวนตามหาในช่วงน้ำลง ก็พบมาเรียมเกยตื้นอีกแล้ว ครั้งนี้ได้เห็นภาพความน่ารัก น่าชังและน่าสงสารปนกันของพะยูนน้อยอย่างชัดเจน

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าไปพบตัวมาเรียมนอนหลับอยู่ในน้ำที่กำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ปลุกจึงตื่น จากนั้นพยายามนำตัวออกมาปล่อยในร่องน้ำลึก ระหว่างทางพบพะยูนน้อยหิวนมมาก จึงพยายามเอาครีบทั้งสองข้าง (เหมือนมือ) ใส่ปากตัวเองแล้วดูด พร้อมส่งเสียงออกมา โดยมีอาการเหมือนเด็กที่กำลังหิวนมแล้วเอามือใส่ปากแล้วดูด สร้างรอยยิ้มแห่งความสุขปนสงสารให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ที่เห็นพฤติกรรมชัดๆของมาเรียม ที่ต้องห่างแม่ ไม่ได้กินนมตลอดเวลาเหมือนอยู่กับแม่ แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และอาสาสมัครมาป้อนในตอนเช้าเรื่อยไปจนตลอดทั้งวัน
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานป้อนนม ป้อนหญ้าให้มาเรียมได้ในตอนกลางคืน เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย โดยขณะนี้หลายฝ่ายพยายามวิธีการในการดูแลมาเรียมให้ปลอดภัยที่สุดในช่วงมรสุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการป้อนนม ป้อนหญ้าให้ได้ตามสัดส่วนที่ทีมสัตวแพทย์ต้องการและปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่และมาเรียม