ตร.ได้ตัวผู้ต้องสงสัย คดีควงซามูไรฟันดับ 2

จากกรณีที่มีวัยรุ่น 2 กลุ่ม ขี่รถจักรยานยนต์ควงมีดดาบซามูไรไล่ฟันกันจากข่วงประตูท่าแพ กลางเมืองเชียงใหม่ อีกฝ่ายเร่งเครื่องรถหนีและเสียหลักรถล้ม ที่หน้าวัดป่าเป้า ถนนมณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ มีคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย อาการสาหัส 1 ราย ก่อนไปจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายได้อ้างว่ากำลังขับรถจักรยานยนต์หนีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งที่ขับรถจักรยานยนต์ไล่ล่ากันมาซึ่งมีอาวุธมีดอีกด้วย

ล่าสุดทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านงานป้องกันและปราบปราม ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจในนพื้นที่ 4 มุมเมือง รวม 60 นาย ปล่อยแถวระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม และป้องกันการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์กรณีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันและ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง

.

พ.ต.อ.สุคนธ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของคดีนั้นตอนนี้เชื่อว่าสาเหตุมาจากการไล่ทำร้ายกันจากนั้นคนที่ขับหลบหนีก็เกิดประสบอุบัติเหตุล้ม แต่ก็ไม่มีการใช้อาวุธมีดเข้าไปฟัน หรือทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งจากผลชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวกลุ่มมาสอบสวน ขณะนี้ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในภาพวงจรปิดได้แล้ว 2 คน

ส่วนการเพิ่มความเข้มข้นในการตั้งจุดตรวจ โดยเพิ่มระยะเวลาการตั้งจุดตรวจ 00.01-08.00 น.ของวันใหม่ โดย 8 ชั่วโมงได้มีการกำหนดให้มีการตั้งตรวจจุดตรวจ และดำเนินการตามสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมทุกด้าน โดยเน้นทั้ง 4 มุมเมือง และเพิ่มเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้ามาร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

จากนั้นได้ปล่อยแถวกำลังตำรวจทั้ง 4 สภ.ไปปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและกวาดล้างกลุ่มวัยรุ้น โดยทาง สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียบใหม่นั้น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสะพานเหล็ก(ขั๋วเหล็ก) ถ.เชียงใหม่ลำพูน ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวกลุ่มวัยรุ่นถืออาวุธทั้งมีดและท่อนไม้ไล่ทะเลาะวิวาทกันจนเป็นข่าวดัง ซึ่งสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชื่อว่า"แก๊งพันดำ"พร้อมด้วยสมาชิกแก๊ง 6 คนและมีดดาบอีก 2 เล่ม

.

.

ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงควบคุมตัวไปทำประวัติพร้อมกับส่งตัวให้พนักงานสอบสวน พร้อมกับตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 3 คันที่มีการดัดแปลงสภาพ ไปดำเนินคดีในฐานความผิด"พกพาอาวุธ,ดัดแปลงสภาพรถ" ก่อนที่จะเรียกตัวผู้ปกครองมารับตัวกลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ต่อไป ซึ่งแก๊งที่ถูกจับนี้เป็นคนละแก๊งที่ก่อเหตุ

ด้านนายชาญศักดิ์ วรขจรวิรัตน์ ศิลปินอิสระซึ่งมักจะมีการเปิดหมวกเล่นดนตรีบนลานท่าแพ กล่าวว่า บนลานแห่งนี้นั้นจะมีกลุ่มนักขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือไบค์เกอร์อยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มบิ๊กไบค์ซึ่งจะมาแค่รวมตัวกันถ่ายรูปเท่านั้น ส่วนกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มวัยรุ่นส่วนมากจะอายุประมาณ 14-17 ปี ทั้งชาวไทยและไทใหญ่ ซึ่งจะมีการรวมตัวตามมุมต่างๆที่ค่อนข้างลับตา จากนั้นก็จะมีการเบิ้ลเครื่องรถ โชว์รถ รวมถึงทะเลาะวิวาท อยากฝากไปถึงคนกลุ่มนี้ว่าลานท่าแพนั้นเป็นลานเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ที่มีมาหลายร้อยปีกลุ่มที่จะนำรถจักรยานยนต์มาบนลานท่าแพนั้นควรที่จะให้เกียรติสถานที่เก่าแก่แห่งนี้ด้วย...