นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน "Fake News" หรือข่าวลวง เป็นเรื่องที่สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นวงกว้าง และเป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์ของปัญหานี้ มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยการจัดงานครั้งนี้ มีผู้แทนจากประเทศไทยและนานาชาติเข้าร่วมเป็นวิทยากรและร่วมเสวนา เพื่อแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์การรับมือปัญหาข่าวลวงของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนให้สังคมไทยรับมือ กับปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานสื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อสมัยใหม่ มีทักษะ ในการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ ใช้สื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์
ด้าน ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ประเทศไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่มีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นข้อมูลปลอม ทำให้พวกเราต้องทำงานเพื่อป้องกันให้ได้ ซึ่งหากทำสำเร็จจะทำให้ภาครัฐไม่ต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเรา ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อมูลเหล่านั้นจะเกิดขึ้นจากความตั้งใจหรือไม่ และอาจจะเป็นข่าวลือ แต่จะต้องแก้ไขให้สำเร็จภายใน 60 นาที
"หากพบเห็นข่าวลือข่าวลวง รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องเข้าใจบริบทว่า ทำอย่างไรต้องแก้ข่าวให้ได้ภายใน 60 นาที เพื่อจะบอกได้ว่า เรื่องข้อมูลของภาครัฐจริงเท็จอย่างไร ซึ่งกระบวนการจะเป็นไปในลักษณะการแบ่งปันข้อมูลความคิดเห็นของเราเข้าไปในสื่อสาธารณะ"
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข่าวร่วมกัน ภายใต้ภาคประชาสังคม เรียกว่า CoFacts ในกลุ่มไลน์ ที่มีสมาชิกร่วม 1 แสน มีวิธีการทำงาน บ่อยครั้งข้อมูลต่างๆ ที่เห็น กุข่าวลือขึ้นมา หากมีความรู้สึกต้องส่งต่อข่าวลือนี้ไปที่หุ่นยนต์ (Robot) หากหุ่นยนต์โมโหจะตีข้อมูลกลับมาว่า เป็นข่าวจริงหรือไม่ ซึ่งผู้คนจะมาเจอกันทุกสัปดาห์ โดยเป็นการพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร