นายทุนเงินกู้บุกตบลูกหนี้ถึงเตียงคนไข้

ร.ต.ท.พีรวัฒน์ ไชยสมศรี รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายกันภายใน ห้องคนไข้แผนกผู้ป่วยใน 1 ชั้น 1 ภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงรุดไปสอบสวน
เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ได้พาพนักงานสอบสวนไปพบกับนางชุลีพร พงษ์สกุลลิขิต อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คนไข้ผู้เสียหาย นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนเตียงภายในห้องคนไข้ มีบาดแผล ถูกตบ เข้าที่บริเวณเหนือแก้มขวาเป็นรอยพกช้ำ ทางแพทย์และพยาบาลได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอสอบสวนปากคำ
โดยนางชุลีพร คนไข้รายนี้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มารักษาอาการป่วยจากโรคกรวยไตอักเสบ ที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อวานนี้ ทางแพทย์ได้รับตัวไว้รักษาและให้นอน ใส่สายน้ำเกลือ เพื่อรอประเมินอาการ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยง ขณะที่ตนกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อกลางวันอยู่บนเตียง และเป็นช่วงที่ทางโรงพยาบาลอนุญาตให้บุคคลภายนอกและญาติเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วย ได้มีนางสาวสลิสา (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 40 ปีเศษ ซึ่งรู้จักกัน รูปร่างใหญ่ เป็นนายหน้าให้กับนายทุนรับจำนำรถจักรยานยนต์ สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำกาง ขายาวสีดำ เดินทางมาพร้อมกับชายรุ่นราวคราวเดียวกันสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำ กางเกงยีนส์ รูปร่างผอม ได้เดินปะปนมาพร้อมกับญาติคนไข้ เข้ามาต่อว่าที่ตนได้เช่ารถจักรยานยนต์จากร้านรถเช่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่และให้นางสลิสา พานำรถไปจำนำไว้กับนายทุนเงินกู้ รายหนึ่งในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
แต่ต่อมาเจ้าของร้านรถเช่าได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ตามไปยึดเอารถจักรยานยนต์ที่นำไปจำนำนั้นมาจากนายทุน ทำให้นายทุนเงินกู้ไม่พอใจหาว่าตนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยึดรถทำให้นางสลิสา ไม่พอใจมาต่อว่าและข่มขู่ให้ตนชดใช้เงินคืนให้ ซึ่งตนได้ล้มป่วยลงไม่สามารถไปหาเงินมาใช้คืนให้ได้ ก็ถูกหญิงคนดังกล่าวตามมาถึงโรงพยาบาลและใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าด้านขวา 3 ทีจนฟุบคาเตียง
พร้อมกับข่มขู่ว่ารีบให้หาเงินมาให้หากไม่หาเงินมาชดใช้นายทุน ก็จะพาสามีตามมากระทืบที่โรงพยาบาลซ้ำอีกครั้ง ขณะเกิดเหตุมีคนไข้นอนอยู่ในห้องพร้อมกับญาติอีกหลายคน หญิงคนดังกล่าวยังไม่เกรงกลัว หลังจากเกิดเหตุทางพยาบาลและผู้ช่วยได้เข้ามาห้ามแยกย้ายคู่กรณี ออกจากโรงพยาบาลก่อนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาล ได้บันทึกภาพคนร้าย ที่กำลังก่อเหตุได้อย่างชัดเจน
ฃขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายการต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำครั้งนี้ เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก แม้แต่ในโรงพยาบาลก็ยังกล้าลงมือ