นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ธัญญา เนติธรรมกุล เปิดยุทธการ "ลับคมขวาน"มุ่งมั่นปกป้องทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า อย่างเข้มแข็ง ในพื้นที่ รอยต่อประเทศ กับเพื่อนบ้าน ที่ยังพบการบุกรุก ตัด โคน และรวมถึงล่าสัตว์ป่า ให้หยุดยั้งการกระทำแต่ต้องไม่มีการสูญเสีย
ล่าสุดเกิดการปะทะกันระหว่างการลาดตระเวนของหน่วย SMART Patrol เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ประกอบกำลังกับ ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 2 - 3 สายตรวจส่วนกลาง จำนวนทั้งสิ้น 17 นาย
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.ได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ดังมาจากบริเวณ "พลาญจาก" ห่างจากชายแดน ไม่ถึงครึ่งกิโลเมตร จึงเฝ้าระวังพื้นที่ไว้เนื่องจากใกล้ค่ำกระทั่งเช้าวันที่ 10 มิ.ย. จึงจัดกำลังเดินเท้าไปยังจุดเป้าหมาย เวลาประมาณ 12.30 น จนท.ชุดหน้า 3 นาย ตรวจพบ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย 5 นาย มี 2 คน แต่งกายชุดทหารประเทศเพื่อนบ้าน ติดอาวุธ ที่เหลืออีก 3 คน กำลังช่วยกันแปรรูปไม้ จนท ได้จัดวางกำลังปิดล้อมเพื่อดำเนินการจับกุม เมื่อเข้าระยะ 20 เมตร ได้แสดงตัว กองกำลังไม่ทราบฝ่าย จึงยิงปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่
ทั้ง 2 ฝ่าย ยิงตอบโต้กัน ทหารประเทศเพื่อนบ้าน ยิงปืน M79 ใส่ จนท. 2 นัด แต่ทั้ง 2 ลูกไม่ทำงาน การปะทะครั้งนี้ มีการจัดกำลังวางแผนเพื่อเซฟ จนท มีการเรียกขาน อัตรากำลัง ตลอดเวลา มีการขอกำลังเสริม พอ สิ้นเสียงปืนประมาณ 5-10 นาที จนท ชุดหน้าได้เรียกกำลังเสริมที่เหลือ เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง
จากการตรวจสอบพื้นที่ พบเลื่อยโซ่ยนต์ 3 เครื่อง จึงยึดและนำออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว โดยยังไม่ได้ทำการตรวจสอบไม้ตะเคียนทองที่ถูกลักลอบแปรรูปแต่อย่างใด และในขณะนำเลื่อยโซ่ยนต์ของกลางออกจากที่เกิดเหตุ มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ วิ่งเข้ามา จนท ซุ่มดูจนแน่ใจว่า เป็นฝั่งกัมพูชา หน่วย SMART Patrol จึงถอยไปยังพื้นที่ปลอดถัย ที่"พลาญพังคิ" ห่าง "พลาญจาก" 3 กม. เวลาประมาณ 17.00 น เพื่อป้องกันการสูญเสีย แต่ไม่สามารถออกมาได้ในวันเดียว จึงพักค้างแรมในคืนวันที่ 10 มิ.ย.
วันที่ 11 มิ.ย. ได้วิทยุแจ้งเหตุรายงานผู้บังคับบัญชา และนำของกลาง เลื่อยโซ่ยนต์ 3 เครื่อง กลับถึง ขสป.ห้วยศาลา เวลา 19.00 น. และในวันดังกล่าว นายชัยวัฒน์ ได้เข้าไปยังหน่วย ขสป.ห้วยศาลา เพื่อรวบรวมหลักฐานและให้กำลังใจ จนท.พร้อมทั้งจัดทำบันทึก เหตุการณ์ พร้อมของกลางเครื่องเลือยยนต์ เพื่อประกอบคดีต่อไป นายชัยวัฒน์ บอกว่า ไม้ตะเคียนทองที่ถูกลักลอบแปรรูปเชื่อว่า น่าจะมีใบสั่งเนื่องจากชายแดน ไทย-กัมพูชา มีการลักลอบทำไม้ตะเคียนทอง เพื่อการก่อสร้างในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมีการสร้างบ่อนคาสิโน และการขยายเมือง โดยสังเกตจากขนาดของไม้ มีหลายขนาด และจุดทำไม้ ห่างชายแดนกัมพูชาเพียงไม่ถึงครึ่งกิโลเมตร และมีเส้นทางชักลากไม้ลง ชัดเจนว่าไม้ เมื่อทำเสร็จแล้วจะขนลงไปตามเส้นทาง เข้าประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน นอกจากพบไม้ที่แปรรูปเป็นแผน ยังพบไม้ถูกโคนไว้อีกจำนวนมาก
สำหรับการถอนกำลังของหน่วย SMART Patrol ถือว่าทำถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงได้ดีที่สุดเพราะ จนท.ทุกนาย ต่างก็มีครอบครัวเช่นกัน