ก่อนที่จนท.จะเข้าควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นฝั่งที่สถานีเรือ บ้านกาเบง หมู่ 3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เมื่อเวลา 22.00น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมาล่าสุดมีการควบคุมตัวไปยังสถานที่3แห่งคือที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือตม.จังหวัดสตูล/สถานีตำรวจภูธรเมือง และสถานีตำรวจภูธรฉลุง จ.สตูล เพื่อรอการสอบสวนว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่
โดยที่สถานีตำรวจภูธรฉลุง ซึ่งมีผู้อพยพอยู่ที่นี่จำนวน20คนในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงและเด็ก10คน และผู้ชาย10คน รวมถึงนายสังคม. พาพันธ์. ไต๊ก๋งเรือคนไทยอยู่ที่นี้ด้วย โดยผู้อพยพทั้งหมดต้องอาศัยอยู่ในห้องขังผู้ต้องหาเพื่อรอการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้จนท.ได้มีการประสานขอล่ามแปลภาษาที่สามารถสื่อสารพูดคุยกับผู้อพยพโรฮิงญาจากกลุ่มสหวิชาชีพให้เข้ามาร่วมสอบปากคำด้วย..
เบื้องต้นข้อมูลที่ทีมข่าวได้สอบถามกับไต๋ก๋งเรือรายนี้บอกว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนคนหนึ่งที่เป็นชาวเมียนมาร์ให้นำเรือออกไปรับกลุ่มผู้อพยพโรฮิงญาที่ประเทศบังกลาเทศ โดยให้ค่าจ้างเที่ยวละ1แสนบาท เพื่อนำไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย แต่ระหว่างทางน้ำมันหมดจึงจอดลอยลำกลางทะเล เพื่อรอให้นายทุนที่ว่าจ้างนำน้ำมันมาเติมให้...แต่ปรากฎว่ารอมาแล้ว3วันก็ไม่มีการนำน้ำมันมาส่งให้แต่อย่างใด กระทั่งเรือถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่งที่บริเวณเกาะราวี ซึ่งข้อมูลนี้ก็ตรงกับที่ผู้อพยพแจ้งกับจนท.เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนหลังจากนี้จนท.ก็จะมีการควบคุมตัวผู้อพยพทั้งหมดมาสอบสวน หาข้อเท็จจริง พร้อมกับมีการประสานให้เจ้าหน้าจากสาธารณสุขมาทำการตรวจร่างกาย รวมถึงรอเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาร่วมดูแลช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมต่อไป
ส่วนประเด็นที่ว่าจะมีการผลักดันผู้อพยพกลุ่มนี้ออกนอกประเทศหรือไม่อย่างไรนั้น. ต้องรอการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีรายงานล่าสุดว่าจเรตำรวจแห่งชาติพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ได้เดินทางมาที่จ.สตูลและจะเข้าร่วมประชุมกับจนท.ในช่วงบ่ายวันนี้