svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทุเรียนสดแชมป์ส่งออกจีนมากสุด

11 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พาณิชย์" ระบุ เอฟทีเอดันส่งออกผลไม้ไทยไปจีนช่วง 4 เดือน ปี 62 พุ่ง 152.7% ชี้ ทุเรียนสดขึ้นแท่นผลไม้ส่งออกไปจีนมากสุด ตามด้วยมังคุดสด ลำไยสด และทุเรียนแช่เย็นแช่แข็ง แนะเกษตรกรและผู้ส่งออกไทยเน้นรักษาคุณภาพมาตรฐานการเพาะปลูก และการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรมอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าจากการติดตามสถิติการส่งออกของไทยไปจีน ในช่วง 4 เดือน ปี 2562 พบว่าผลไม้เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีนที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด โดยมีมูลค่า668.8 ล้านดอลลาร์ หรือขยายตัว 152.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าและมีอัตราเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559


ทุเรียนสดแชมป์ส่งออกจีนมากสุด


ทั้งนี้ ผลไม้ที่ไทยส่งออกไปจีนมากที่สุดคือทุเรียนสด 318.61 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ มังคุดสด 141.26 ล้านดอลลาร์ ลำไยสดและทุเรียนแช่เย็นแช่แข็ง ขณะที่การส่งออกสินค้าอื่นของไทยไปจีนในช่วงเดียวกันชะลอตัวลงโดยในปี 2561 จีนนำเข้าผลไม้จากไทยเป็นอันดับ 1 มีมูลค่า 2,021 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือชิลี และเวียดนาม ซึ่งทุเรียนสดเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนมากที่สุด 418 ล้านดอลลาร์คิดเป็น 41.5 % ของการส่งออกสินค้าผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งและแห้งที่ไทยส่งออกไปจีน รองลงมาคือ ลำไยสด ลำไยแห้ง และมังคุดสด


นางอรมน กล่าวว่า จากการประเมินพบว่าเอฟทีเอที่ไทยมีกับจีนภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ซึ่งจีนยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยทุกรายการจากเดิมที่เก็บภาษีอยู่ที่ 1030% ช่วยให้ผลไม้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดจีนได้


นอกจากนี้ ความตกลงเอฟทีเอที่ไทยทำกับ18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์เปรู ชิลี และฮ่องกงโดยประเทศที่ไทยได้ทำเอฟทีเอและได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยแล้วมีอาเซียน5 ประเทศ (สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซียยังเก็บภาษีผลไม้บางประเภทที่อัตรา5% และประเทศอื่นอีก6 ประเทศ ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง สำหรับญี่ปุ่นเกาหลีใต้ และอินเดียยังมีการเก็บภาษีผลไม้บางประเภทอยู่ ทำให้มูลค่าการส่งออกผลไม้ไทยไปประเทศดังกล่าวในช่วง4 เดือนของปีนี้ เติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่า 1,292 ล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนถึง95%ของการส่งออกไปโลก และมีอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 83.7%  โดยเฉพาะการส่งออกไปจีน ฮ่องกง และออสเตรเลีย


"ปัจจุบันผู้บริโภคจีนเน้นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพมากขึ้นและหน่วยงานของจีนก็ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบสารพิษตกค้างในผลไม้ตลอดจนมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช(SPS) มากขึ้นจึงขอให้เกษตรกรและผู้ส่งออกไทยให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพมาตรฐานในการเพาะปลูกและการผลิตสินค้าผลไม้สดและแปรรูปให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล"นางอรมน กล่าว

logoline