สำหรับการประชุมครั้งนี้จะหารือในประเด็นสำคัญ เช่นการแลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกการถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท)การปฏิรูปการทำงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรปพัฒนาการด้านกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าของทั้งสองฝ่ายในรอบปีที่ผ่านมาและการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่เกิดจากการออกมาตรการหรือกฎระเบียบทางการค้าใหม่ๆเป็นต้น
นางอรมน กล่าวว่าเนื่องจากขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และสหภาพยุโรปเองก็อยู่ระหว่างการเลือกตั้งรัฐสภาชุดใหม่เช่นกันดังนั้นในการประชุมคณะทำงานครั้งนี้ จะยังไม่หารือในรายละเอียดของเอฟทีเอแต่จะเป็นเวทีที่ทั้งสองฝ่ายร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการประเมินหรือพิจารณาตัดสินใจเรื่องนี้ในอนาคต
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับ3 ของไทย ในปี 2561 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 47,271.87 ล้านดอลลาร์เป็นการส่งออกจากไทยไปสหภาพยุโรป 25,014.13 ล้านดอลลาร์และไทยนำเข้าจากสหภาพยุโรป 22,257.74 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปสหภาพยุโรปเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบไก่แปรรูป และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากสหภาพยุโรป เช่นเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องเพชรพลอย เป็นต้น