svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ปชช.​ 3.2 หมื่นลงชื่อปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด​ -​ จี้ปปส.มอบกัญชาของกลางให้หมอพื้นบ้าน

09 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การเดินเพื่อผู้ป่วยได้ก้าวมาถึงจุดหมายปลายทางแล้วในวันนี้ นับตั้งแต่ได้ย่างเท้าก้าวแรกจากวัดป่าวชิรโพธิญาณ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 รวมระยะทาง 268 กิโลเมตร เป็นเวลา 20 วัน เครือข่ายภาคประชาชนแถลง คำประกาศอิสรภาพกัญชารักษาโรคมีใจความดังต่อไปนี้

คำประกาศอิสรภาพกัญชารักษาโรค

ณ วัดบางปลาหมอ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี9 มิถุนายน 2562 เวลา 14.00 น.

การเดินเพื่อผู้ป่วยได้ก้าวมาถึงจุดหมายปลายทางแล้วในวันนี้ นับตั้งแต่ได้ย่างเท้าก้าวแรกจากวัดป่าวชิรโพธิญาณ อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 รวมระยะทาง 268 กิโลเมตร เป็นเวลา 20 วัน

ตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางนี้

-มีประชาชนจำนวนมากที่ได้หมุนเวียนร่วมกันเดินสู่จุดหมาย

-ประชาชน 32,049 คน ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอแก้ไขกฎหมายการใช้กระท่อมและกัญชาเพื่อการแพทย์

- ผู้ป่วยจำนวน 40,145 คน ร่วมลงชื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยการใช้กัญชาสูตรน้ำมันเดชาเพื่อรักษาโรค

-มีประชาชนระหว่างเส้นทางเดินที่บอกว่าไม่มีอะไรมากพอจะสนับสนุนและเป็นกำลังใจได้นอกเหนือจากหนูนาย่างเพื่อร่วมสมทบเป็นอาหาร หลายท่านที่โอนเงินเข้าบัญชีร่วมทำบุญผลิตยากัญชา และผู้ใจบุญบางท่านขอบริจาคมากถึงหนึ่งล้านบาทเพื่อผู้ป่วยโตยขณะนี่ยอดเงินบริจาคทุกบัญชีรวมกันแล้วมากถึง รวม 4,968,742.78 บาท ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

ตลอดระยะเวลา 20 วันนี้ เราได้ยิน ได้เรียนรู้จากปากคำของผู้ป่วยนับร้อยนับพันคนว่า การใช้กัญชาอย่างถูกต้องนั้นสามารถรักษาเยียวยารักษาโรคต่างๆได้มากมายกว่าที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐประกาศเพียงไหน

แต่น่าเศร้าสลดที่ผู้ป่วยเหล่านี้หลายแสนคน และอาจมากถึงหลายล้านคน กลับไม่สามารถเข้าถึงยาจากกัญชาได้ จากกฎหมายและระเบียบล้าหลัง ตลอดจนแนวปฏิบัติของรัฐที่เอื้ออำนวยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การเปิดโอกาสบริษัทยาข้ามชาติยื่นขอสิทธิบัตรผูกขาด และอ้างเหตุนำเข้าผลิตภัณฑ์กัญชาจากต่างชาติ กีดกันหมอพื้นบ้านไม่ให้ผลิตยา และไม่สามารถเข้าถึงวัตถุดิบกัญชาได้

บัดนี้ ไม่เพียงแต่ประชาชนบนเส้นทางเดินพิจิตร-นครสรรค์-ชัยนาท-สิงห์บุรี-สุพรรณบุรีเท่านั้นที่ลุกขึ้นยืนประกาศเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงยา แต่ประชาชนทั้งประเทศ จากเชียงราย-ปัตตานี และจากกาญจนบุรี-อุบลราชธานี จะลุกขึ้นยืนพร้อมกันด้วย

บนแผ่นดินนี้ เราขอประกาศอิสรภาพการใช้กัญชารักษาโรค เพื่อเรียกร้องสิทธิของผู้ป่วยในการเข้าถึงยาและเลือกวิธีการรักษาโรค เคารพภูมิปัญญาและการส่งเสริมบทบาทของหมอยาพื้นบ้าน ต่อต้านการผูกขาดยาและเสริมสร้างการพึ่งพาตนเอง ดังต่อไปนี้

หนึ่ง ในระหว่างที่ยังไม่มีการอนุญาตให้สหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาได้ในปริมาณที่เพียงพอ ปปส.ต้องมอบวัตถุดิบกัญชาของกลางให้กับหมอพื้นบ้านที่ผลิตยาแจกจ่ายแก่ประชาชน มิใช่การเผาทำลายทิ้งไปโดยไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพและเกณฑ์ความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์ปลายทาง (end products) เพื่อให้ผู้ป่วยที่เคยใช้ยากัญชาสามารถเข้าถึงยาได้ต่อเนื่อง

สอง เรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข รับรองตำรับยาน้ำมันกัญชา หรือน้ำมันกัญชาผสมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นต้น เป็นตำรับยาหมอพื้นบ้าน และตำรับยานี้ควรอยู่ในระบบบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้หมอพื้นบ้าน แพทย์แผนไทย บุคลาสาธารณสุขสามารถผลิตยาได้ และผู้ป่วยทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงยากัญชาได้อย่างกว้างขวางและปลอดภัยในราคาไม่แพง

สาม ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและทุกพรรคการเมืองร่วมกันสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายให้กัญชง กระท่อม สาร CBD และสารอื่นจากกัญชาที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ออกจากบัญชียาเสพติดอย่างสมบูรณ์

และต้องอนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์สามารถปลูกกัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเอง เช่นเดียวกับหมอยาพื้นบ้าน บุคคลากรด้านการแพทย์/สาธารณสุข สถานพยาบาล สามารถปลูก และปรุงยากัญชาได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสม ผ่านการจดแจ้ง และใช้กลไกของชุมชน ท้องถิ่น ในการกำกับดูแลไม่ให้มีการนำวัตถุดิบกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

สี่ เร่งฟื้นฟูและพัฒนาสายพันธุ์กัญชา โดยการส่งเสริมสนับสนุน และคุ้มครองบทบาทของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สายพันธุ์กัญชาไทยกลับมามีความหลากหลายและมีคุณภาพดีที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง เพิกถอนและระงับการยื่นขอจดสิทธิบัตรที่ขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะการจดสิทธิบัตรสารตามธรรมชาติ การใช้เพื่อรักษาโรค และขาดความใหม่ เป็นต้น

เราขอประกาศว่า เครือข่ายเดินเพื่อผู้ป่วยจะเร่งเผยแพร่ความรู้ ส่งเสริมการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค โดยร่วมมือกับทุกกลุ่มทุกฝ่ายและทุกพรรคการเมืองที่มีหลักการและเป้าหมายเดียวกัน

เราจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยนับแสนนับล้านคนที่รออยู่สามารถเข้าถึงยากัญชาโดยเร็วที่สุด

หากรัฐเพิกเฉย ผู้ป่วยและประชาชนจากทุกจังหวัด จะร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน

องค์กรร่วมจัด 12 องค์กร

มูลนิธิข้าวขวัญ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน(ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิสุขภาพไทย มหาวิทยาลัยรังสิต เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.)เครือข่ายผู้ป่วย (Healthy Forum) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)

9 มิถุนายน 2562วัดบางปลาหมอ สุพรรณบุรี

logoline