svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

VNG ปั้น "วู้ดสมิตร" เจาะตลาดในปท.รับมือศก.โลกผันผวน

05 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

VNG ปรับโมเดลธุรกิจ รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวนจากปัญหาสงครามการค้า ปั้น "วนชัย วู้ดสมิตร" พัฒนาสินค้าใหม่เจาะค้าปลีก ผ่านการจับมือกลุ่ม "ไดนาสตี้" ผู้นำในอุตสาหกรรมกระเบื้องเซรามิค วางจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ ประเดิมปีนี้ 20 สาขา คาดกวาดยอดขายกว่า 300 ล้านบาท วางเป้าปี 66 ทะลุ 9,000 ล้านบาท ดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ-ในประเทศขยับเป็น 50:50 จากปัจจุบันอยู่ที่ 80:20 พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล-โซลาร์รูฟท็อป หวังลดต้นทุนค่าไฟ ด้านผู้บริหาร "วรรธนะ เจริญนวรัตน์" มั่นใจโมเดลใหม่ จะช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างกำไรที่ยั่งยืนในอนาคต วางเป้าหมายปี 65 รายได้พุ่งแตะ 2 หมื่นล้านบาท

กรรมการผู้จัดการ บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) (VNG)วรรธนะ เจริญนวรัตน์เปิดเผยว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ กระทบการค้าขายทั่วโลกตลอดจนการเดินเรือและบริษัทฯก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากยอดขายกว่า 80% มาจากการส่งออกรวมไปถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าว่าเงินสกุลอื่นๆ ทำให้ราคาขายสินค้าลดต่ำลง อีกทั้งผลพวงปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้จีนต้องชะลอการผลิตอุตสาหกรรมไม้และชะลอการซื้อไม้แปรรูปจากประเทศไทยอุตสาหกรรมโรงเลื่อยในประเทศไทยจึงชะลอตัวลงอย่างมากส่งผลให้เกิดการชะลอการโค่นไม้ยางพาราจากสวนยางพาราที่หมดอายุการกรีด ทำให้ซัพพลายของไม้หายไปจำนวนมากกดดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุน และคาดว่าปีหน้าจะไม่ขาดทุนแล้ว




"ในช่วงเวลาไม่ถึง 5 ปีนี้มีทั้งปีที่บริษัทฯกำไรมากที่สุดและปีที่ขาดทุนมากที่สุดแสดงให้เห็นว่ากำไรของบริษัทฯผันผวนตามตลาดคอมโมดิตี้ส์โลก ซึ่งในช่วงนี้เศรษฐกิจโลกอาจจะจะมีความผันผวนมากกว่านี้ทำให้เรามีความจำเป็นต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ให้มีความเชื่อมโยงกับตลาดคอมโมดิตี้ส์ของโลกลดลงแต่จะพัฒนาให้ขายสินค้าในตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งตลาดปลายน้ำใหม่ๆ ตลาดค้าปลีกและ ตลาด Finished Products การปรับโมเดลครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ในปี2565 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ VNG สามารถสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนสม่ำเสมอและเติบโตอย่างยั่งยืนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยในปี 2565ได้วางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท"



สำหรับโมเดลธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ จะเพิ่มการขายสินค้าในประเทศเป็น 50% จากเดิมที่มีเพียง 20%โดยยอดขายประเทศไทย 50% จะเป็น Finished Products ที่บริษัทฯกำลังพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท วนชัยวู้ดสมิธ จำกัด โดยจะใช้แบรนด์สินค้าคือ "วนชัย วู้ดสมิตร" ซึ่งโมเดลใหม่นี้จะทำให้บริษัทฯสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจโลก



เขากล่าวต่อว่าตลาดปลายน้ำและตลาดค้าปลีก การใช้ไม้อัด wood-based panel ในประเทศไทยไม่ได้เจริญเติบโตขึ้นเหมือนในประเทศอื่นๆทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าการใช้ไม้ในการก่อสร้างในประเทศไทยไม่ได้รับการพัฒนาเลย บริษัทฯ มีความตั้งใจจะพัฒนาตลาดการใช้ไม้อัด wood-basedpanel ในประเทศให้ทัดเทียมนานาประเทศด้วยเนื่องจากไม้เป็นวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเมื่อเทียบกับเหล็ก ซีเมนต์ และ พลาสติก การผลิตไม้ wood-based panel ของบริษัทฯมีกระบวนการผลิตที่มีความsustainable สมบูรณ์ครบวงจร



นอกจากนี้ VNG ยังมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืนและสม่ำเสมอ ด้วยสามกลยุทธ์หลัก คือ 1.การบริหารวัตถุดิบไม้แบบครบทั้งสวนทั้งต้น2.การพัฒนาสินค้าใหม่ แผ่นไม้OSB และ แผ่นวีเนียร์ และ3. การทำธุรกิจพลังงานทดแทน



การบริหารวัตถุดิบไม้แบบครบทั้งต้นครบทั้งสวนนั้น จะทำให้ บริษัทฯ ไม่ต้องพึ่งพาเศษไม้จากอุตสาหกรรมโรงเลื่อยซึ่งจะมีปริมาณมากน้อยขึ้นลงตามเศรษฐกิจโลกเพียงอย่างเดียวโดยจะสามารถใช้ไม้ยางพาราได้ทั้งสวนทั้งต้น ซึ่งจะลดต้นทุนไม้ได้มากเพราะสวนยางพาราที่มีอายุเกินกรีดยางได้แล้วยังไม่ถูกโค่นมีจำนวนมาก โดยการใช้ไม้ของบริษัทฯนั้น ส่วนกิ่งก้านนั้นจะเอาไปผลิตแผ่น MDF และ แผ่น OSB ส่วนตรงกลางลำต้น หรือไม้ท่อนจะนำมาปอกเป็นแผ่นวีเนียร์ เศษจากการปอกวีเนียร์ก็จะนำไปทำ Particleboardและ รากไม้ก็จะนำไปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล



ส่วนการพัฒนาสินค้าใหม่ แผ่น OSB และ แผ่นวีเนียร์ ทำให้สามารถใช้ไม้ยางพาราได้ทั้งสวนทั้งต้น และสินค้าใหม่สองตัวยังมีราคาขายที่สูงที่สุดในกลุ่มสินค้า wood-based panel ซึ่ง "วนชัย กรุ๊ป" จะเป็นผู้นำคนแรกในการผลิตสินค้าสองชนิดนี้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในประเทศไทยโดยโรงงาน OSB แห่งใหม่ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีจะก่อสร้างเสร็จภายในปีนี้มีมูลค่าการลงทุน 2,300 ล้านบาท



นอกจากนี้ VNGยังได้จัดตั้งบริษัทฯใหม่เพื่อเข้ามาบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์จะเห็นความชัดเจนในปีนี้เพื่อรองรับการสเติบโตของ "วนชัย วู้ดสมิตร" และการขายสินค้าภายในประเทศซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่กับการลดต้นทุนและช่วยให้ "วนชัย กรุ๊ป"และ "วนชัยวู้ดสมิตร" สามารถบริการลูกค้าผู้บริโภคทั่วประเทศได้ดีสมบูรณ์



เขากล่าวต่อในช่วงท้ายว่าปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีกำลังการผลิต 9.9เมกะวัตต์ โดยวัตถุดิบก็คือเศษเปลือกไม้ที่เหลือจากการผลิตในโรงงานและรากไม้ที่เหลือจากโค่นไม้ยางพาราที่หมดอายุ และจะดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดสระบุรีด้วย นอกจากนี้ยังได้เริ่มใช้พลังงานไฟฟ้า solar roof ที่โรงงานสระบุรีแล้วในปีนี้ มีกำลังการผลิต 3.5เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมากเช่นกัน และ จะดำเนินโครงการ solarroof ที่โรงงานชลบุรี และ สุราษฎร์ธานี ต่อไปด้วย



ด้านนางสาวภัทรา สหวัฒน์ กรรมการ บริษัท วนชัย วู้ดสมิธ จำกัดบริษัทย่อยของ VNG ระบุว่าบริษัทฯมีเป้าหมายพัฒนาตลาดการค้าปลีกและสินค้า finished products โดยบริษัทฯมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพที่สะพานพระราม7 เป็นศูนย์เรียนรู้ให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ทดสอบและเรียนรู้การใช้ finished products ของบริษัทฯ นอกจากนั้น "วนชัย วู้ดสมิตร" จะเปิด flagship store ตามหัวเมืองใหญ่เป็นลำดับต่อไป โดยจะมีทั้ง standalone store และ partner store โดยร่วมมือกับพันธมิตรของเราเริ่มต้นด้วยการจับมือกับกลุ่ม Dynasty ผู้นำในอุตสาหกรรมกระเบื้องเซรามิค



"เราตั้งเป้าหมายจะมีสาขา 20สาขาร่วมกับกลุ่ม Dynasty ภายในสิ้นปีนี้ ภายในปี 2564ตั้งเป้าจะมี 60 สาขา พร้อมมีการขายออนไลน์ และภายในปี 2566 จะมี 100 สาขาทั่วประเทศไทย พร้อมทั้งได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้จำนวน300 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2564 จะมียอดขาย4,000 ล้านบาท และภายในปี 2566ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท ตามการขยายตัวของสาขา"




อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการวางจำหน่ายสินค้าให้กับโมเดิร์นเทรดที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบันก็จะทำต่อไป ทั้งสินค้าใน brand Vanachai และ สินค้า OEM ต่างๆ แต่การเปิดตัว "วนชัย วู้ดสมิตร" มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสินค้าแบบใหม่ที่ตลาดยังไม่คุ้นเคยแต่เมื่อได้รับการตอบรับแล้วสินค้าของ "วนชัย วู้ดสมิตร" จะช่วยให้ผู้บริโภคมีสินค้าที่ดีมีคุณภาพตอบสนองไลฟ์ไสตล์ใหม่ๆได้ ในราคาที่เหมาะสม




อนึ่ง บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2486 โดยเริ่มจากธุรกิจโรงเลื่อยจักร ก่อนจะพัฒนาเป็นผู้ผลิตไม้อัด และก้าวมาเป็นผู้ผลิตแผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติwood-based panel มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย อาทิ Particleboard MDF BoardOSB Laminate Flooring บานประตูไม้ HDF ผลิตภัณฑ์ตกแต่งผนัง ผลิตภัณฑ์ไม้พื้นและบัว และผลิตภัณฑ์ไม้พื้นบันไดและไม้ราวจับ

logoline