วันนี้ (5 มิ.ย) เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กรณีเปิดเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัว เพื่อสื่อสารกับสาธารณชน อันถือเป็นเจ้าของสื่อมวลชนเข้าข่ายเป็นการขาดคุณสมบัติ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเข้าข่ายการเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชนใดๆ อันจะมีผลเป็นการเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้ผู้ฟ้องคดียื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป
ส่วนกรณีที่กกต. ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดี มีมติไม่รับคำร้องตามหนังสือของผู้ฟ้องคดี จึงเป็นการใช้อำนาจของผู้ถูกฟ้องคดี อันเป็นกระบวนการและขั้นตอนที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในรัฐธรรมนูญ ข้อพิพาทนี้จึงไม่ใช่คดีปกครองที่อยู่ในอำนาจพิพากษาของศาลปกครอง ศาลปกครองสูงสุด จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า อยากเรียกร้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้เเทนราษฎร รีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติส.ส. ในสภาจำนวนกว่า 30 คน ที่ถูกร้องเรียนว่าขัดคุณสมบัติการเป็นส.ส. โดยการถือครองหุ้นสื่อ เพราะหากดำเนินการล่าช้า จะมีผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังจะมีการร้องให้กกต.ตรวจสอบส.ส.เพิ่มอีก ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทยด้วยหรือไม่เนื่องจากเพิ่งประกาศจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ
โดยเท่าที่ตนทราบมา พรรคอนาคตใหม่ได้เสนอญัตติไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ ให้ตรวจสอบคุณสมบัติพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กลับไม่มีการบรรจุญัตติดังกล่าวให้ที่ประชุมได้พิจารณา ซึ่งตนมองว่าเป็นการข้ามขั้นตอน จึงได้แสดงความเห็นไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว
ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นกับกรณีการโหวตพลเอกศิรินทร์ ธูปกล่ำ เป็นคณะกรรมการกกต. และการโหวตคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นผู้ว่า สตง. ที่เมื่อมีการทำผิดขั้นตอน การโหวตดังกล่าวถือเป็นโมฆะ จึงเห็นว่าวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ เป็นการข้ามขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติส.ส. ไปโหวตนายกรัฐมนตรีได้เลย ซึ่งน่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 234(1) หรือไม่ หลังจากนี้จะยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากมีคำวินิจฉัยอาจมีผลให้ผู้ถูกร้องต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่