svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธนบุรี เฮลท์แคร์ ทุ่มพันล้าน ลุยโรงพยาบาล 'เมียนมา'

03 มิถุนายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมียนมา จัดเป็นตลาดที่น่าสนใจในด้านการลงทุนของกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากถึง 53.37 ล้านคน แต่ยังขาดแคลนสาธารณูปโภคอีกมาก รวมทั้งการรักษาพยาบาลดูแลสุขภาพ เพราะทั้งประเทศเมียนมามีจำนวนโรงพยาบาลรวมกันเพียง 120 แห่งเท่านั้น และเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพียง 7-8 แห่ง ทำให้บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG เห็นโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นด้วยงบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ผุดโรงพยาบาลระดับชั้นนำ Ar Yu International Hospital ในย่างกุ้ง

รองประธานกรรมการ THG นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ระบุ Ar Yu International Hospital ถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมืองย่างกุ้ง ได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบมจ.ธนบุรีเฮลท์แคร์ กรุ๊ป ถือหุ้นสัดส่วน 40% ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเมียนมา ถือหุ้น 50% และอีก 10% ถือหุ้นโดยกลุ่มบุคลากรการแพทย์ในเมียนมา โดยโครงการนี้มีมูลค่ารวมกัน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,000 ล้านบาท ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในเมียนมาที่บริหารงานจากทีมจัดการโรงพยาบาลจากไทย

สาเหตุที่เลือกลงทุน เพราะมองเห็นถึงโอกาสในตลาดเมียนมาที่มีความต้องการรักษาพยาบาลสูง แต่โรงพยาบาลในประเทศมีไม่เพียงพอ และยังขาดแคลนเทคโนโลยีในด้านการรักษา ทำให้ชาวเมียนมาบินมารักษาที่โรงพยาบาลในไทยมากถึง 600 คน/วัน แต่ยังคิดเป็นตัวเลขเพียง 0.001%จากจำนวนประชากรทั้งหมดของเมียนมา หรือสัดส่วน 99% ที่ไม่สามารถบินมารักษาในไทย ซึ่งเป็นเหตุผลทั้งเรื่องความสะดวกและโรคที่เป็นไม่ใช่เคสพิเศษหรือต้องใช้ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในการรักษา ดังนั้นเชื่อว่า Ar Yu International Hospital จะเข้ามารองรับความต้องการใช้บริการของชาวเมียนมา ที่ไม่ได้เจาะแค่ประชากรในเมืองย่างกุ้งที่มีประมาณ 6 ล้านคน แต่รองรับความต้องการจากทั้งประเทศ

สำหรับ เป้าหมายในเชิงธุรกิจคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในสิ้นปีนี้ และคืนทุนได้ภายในปี 2563 แต่แผนขยายการลงทุนในอาเซียน คงไม่ได้มองแค่ตัวเลขทางบัญชี เพราะธุรกิจโรงพยาบาลต้องมีความพร้อมในด้านบุคลากรทางการแพทย์และบริการ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ซึ่งบริษัทจะเน้นการพัฒนาด้านเทคนิกและบุลคลากรเข้ามารองรับ หาก 2-3 ปี ธุรกิจโรงพยาบาลในเมียนมาไปได้ดี จะใช้โมเดลดังกล่าวขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดซีแอลเอ็มวี ที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ธุรกิจสุขภาพและโรงพยาบาลของไทย และยังคงยึดรูปแบบลงทุนร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น เพราะธุรกิจโรงพยาบาลควรจะต้องเป็น business local หรือให้คนท้องถิ่นเป็นผู้ขับเคลื่อน เพราะจะมีความเข้าใจตลาดมากกว่า

logoline