ปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงทางเพศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากสถิติความรุนแรงทางเพศในปี 2560 ของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลพบว่ามีทั้งหมด 317 ข่าว ประเภทข่าวที่มาเป็นอันดับ 1 คือ ข่าวข่มขืนที่สูงถึงร้อยละ 48 จึงทำให้มีเสียงของประชาชนเรียกร้องให้เพิ่มโทษคดีข่มขืนให้แรงขึ้น ตลอดจนถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นล่าสุดราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 ในเรื่องการเพิ่มโทษคดีข่มขืนหรือกระทำชำเราที่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต และยังมีการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดในมาตราต่างๆ ให้มีโทษทั้งจำและปรับที่หนักขึ้นอีกด้วย
กฎหมายฉบับเดิมระบุนิยามบ้างมาตราว่า การกระทำชำเรา หมายถึง การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก ช่องปากหรือใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักกับผู้อื่น แต่กฎหมายใหม่ระบุว่า การกระทำชำเรา หมายถึง การกระทำเพื่อสนองความต้องการใคร่ของผู้กระทำ โดยใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำล่วงล้ำอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น
หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มองว่ามาตรานี้ไม่ครอบคลุมเพราะทุกวันนี้พฤติกรรมการข่มขืน กระทำชำเรามีมากกว่าการใช้ อวัยวะเพศ ปาก หรือทางทวารหนัก ซึ่งอาจจะใช้นิ้ว หรือ ของบางอย่างสอดใส่เข้าไปได้เหมือนกันนอกจากนี้ยังมองว่า แม้จะมีบทลงโทษที่เพิ่มสูงขึ้นแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้สถานการณ์ความรุนแรงทางเพศลดลง เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และอาจจะทำให้เหยื่อที่ถูกข่มขืนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
ทว่าเป้าหมายของการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และเพื่อให้ความคุ้มครองบุคคลซึ่งถูกกระทำทางเพศกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ"เด็ก" ที่ไม่มีโอกาสสู้หรือปกป้องตนเองได้เลย