อนิล เวอร์มา ประธานเอดีอาร์ กล่าวว่า มีแนวโน้มน่าเป็นห่วงในรัฐสภา และแย่สำหรับประชาธิปไตย
เอดีอาร์ ซึ่งศึกษาประวัติปูมหลังของผู้ชนะเลือกตั้ง 539 คน พบว่าจำนวนสมาชิกที่ถูกแจ้งข้อหาอาชญากรรม มีสัดส่วนสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มศึกษามาตั้งแต่ปี 2547 ส.ส.พรรคภารติยะชนตะ หรือ บีเจพี ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี พรรคที่ชนะถล่มทลาย กวาด 303 ที่นั่งนั้น มีถึง 116 คนที่เผชิญข้อหาต่างๆ รวมถึงรายหนึ่งโดนข้อหาก่อการร้าย ส่วนพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ส.ส.มีข้อหาติดตัว 29 คนจาก 52 คน โดยเฉพาะ ดีน คูเรียโคเซ จากเมืองอิดุกคี รัฐเกรละ เจอถึง 204 ข้อหา รวมถึงฆาตกรรม และปล้นชิงทรัพย์
เอดีอาร์ระบุว่า จำนวน ส.ส.ที่เจอข้อหาอาญาร้ายแรง เพิ่มกว่าสองเท่าใน 10 ปี จำนวนนี้แยกเป็นคดีฆาตกรรม 11 คดี ฆาตกรรมโดยไม่เจตนา 30 คดี และข้อหาข่มขืน 3 คดี กฎหมายอินเดียห้ามผู้สมัครลงเลือกตั้งหากเคยต้องโทษความผิดอาชญากรรมที่มีโทษจำคุก 2 ปีขึ้นไป ระหว่างอยู่ในตำแหน่ง แต่มียกเว้นในบางกรณีขึ้นอยู่กับประเภทอาชญากรรม แต่ไม่ห้ามผู้สมัครที่เคยต้องคำพิพากษาความผิด ลงเลือกตั้งครั้งแรก
ส.ส.อินเดียจากสภาชุดก่อนที่ต้องข้อหาอาชญากรรมต่างๆนานา 185 คน ไม่มีรายใดต้องคำพิพากษามีความผิด จำนวนมากถึงกลับมาเป็น ส.ส.ได้อีก
นางสัทวี ปราคยา ทาคูร์ สมาชิกสายชาตินิยมฮินดูคนดัง ของพรรคบีเจพี เป็นอีกคนที่ชนะเลือกตั้ง แม้มีข้อหาก่อการร้ายจากเหตุโจมตีใกล้มัสยิดในปี 2551 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เธอปฏิเสธข้อหาและอ้างว่าโดนรัฐบาลชุดก่อนหน้านั้นซึ่งอยู่ภายใต้พรรคคองเกรสกลั่นแกล้ง
ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์