svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กรมชลฯ​ แจงแม่น้ำยม เมืองพิจิตรแห้งขอด เหตุฝนทิ้งช่วง​ และไม่มีเขื่อนเก็บน้ำ!

25 พฤษภาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เนื่องจากลุ่มน้ำยมไม่มีเขื่อนเก็บน้ำไว้ตอนบนลุ่มน้ำ ทำให้ไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนที่จะระบายลงมาในแม่น้ำยมในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับพื้นที่จังหวัดพิจิตร มีเพียงอาคารบังคับน้ำในลำน้ำยม 3 แห่ง

จากสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร หลังฝนไม่ตกตามฤดูกาลส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง อำเภอโพทะเล แห้งขอด โดยเฉพาะบริเวณเขื่อนยางสามง่าม ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำยม ในพื้นที่ หมู่1 บ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนและหลังเขื่อนแห้งขอด ไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ปลูกข้าวบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำ เกิดความเสียหายหลายพันไร่ นั้น

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากลุ่มน้ำยมไม่มีเขื่อนเก็บน้ำไว้ตอนบนลุ่มน้ำ ทำให้ไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนที่จะระบายลงมาในแม่น้ำยมในช่วงฤดูแล้ง ประกอบกับพื้นที่จังหวัดพิจิตร มีเพียงอาคารบังคับน้ำในลำน้ำยม 3 แห่ง คือ ฝายยางสามง่าม ฝายยางพญาวัง และฝายยางพิจิตรหรือฝายยางบางคลาน โดยที่ผ่านมาปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้หน้าฝายตั้งแต่ช่วงปลายฤดูฝน ได้มีการนำไปใช้ทำนาปรังจนหมดแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2561 ถึง มีนาคม 2562 ทำให้ปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน จึงทำการระบายน้ำจากประตูระบายน้ำบางแก้ว ลงแม่น้ำยม ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงปัจจุบัน ปริมาณวันละ 170,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศของแม่น้ำ และตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 จะเพิ่มการระบายเป็น วันละ 260,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อไป

กรมชลฯ​ แจงแม่น้ำยม เมืองพิจิตรแห้งขอด เหตุฝนทิ้งช่วง​ และไม่มีเขื่อนเก็บน้ำ!



สำหรับกรณีฝายยางสามง่ามชำรุดไม่สามารถพองยางเพื่อการเก็บกักน้ำได้นั้น เบื้องต้นโครงการชลประทานพิจิตร ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ใช้น้ำดำเนินการกั้นกระสอบทรายเพื่อเก็บกักน้ำในช่วงปลายฤดูฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไป และขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2562 เพื่อซ่อมแซมฝายให้กลับมาใช้ได้ตามปกติเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยปรับปรุงให้เป็นฝายแบบพับได้แทนฝายยาง

ส่วนกรณีที่มีนาข้าวยืนต้นตายเสียหายแล้วกว่า 5,000 ไร่ ตามข่าวที่นำเสนอ นั้น กรมชลประทานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตชลประทาน บริเวณรอยต่อระหว่างตำบลเนินปอ และตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม มีเกษตรกรได้เพาะปลูกข้าวต่อเนื่อง จำนวน 2 แปลง เป็นพื้นที่รวมประมาณ 15 ไร่ ไม่ใช่ 5,000ไร่ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ นาข้าวแปลงดังกล่าวอยู่ด้านท้ายพื้นที่รับน้ำของฝายวังบัว ซึ่งปัจจุบันมีฝนตกลงในพื้นที่แล้ว ทำให้นาข้าวเริ่มฟื้นตัว สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม โครงการชลประทานกำแพงเพชร จะจัดประชุมการส่งน้ำฤดูฝน ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 นี้ เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน และแนวทางในการช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาต่อไป.

logoline