พ่อพลทหารนนท์เผยลูกเคยบอกมีรุ่นพี่ปองร้าย

วันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ที่ บ้านเลขที่ 88 บ้านโซงเลง หมู่ที่ 10 ตำบลหนองม้า อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ฟังสวดอภิธรรมศพน้องนนท์ พลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร อายุ 22 ปี อาสาสมัครทหารเกณฑ์ ค่ายทหารกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย ที่เสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำภายในค่ายทหาร เมื่อคืนของวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 แต่มีผู้พบเป็นศพในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 โดยพ่อแม่ญาติได้รับแจ้งเพียงว่าเกิดจากอุบัติเหตุพลัดตกลงไปในช่องทางหนีไฟ
แต่ภายหลังจากที่ นาคำแพง นางรัตนาภรณ์ นนทบุตร พ่อแม่ รวมทั้งญาติๆ ได้เดินทางไปรับศพ และได้มีโอกาสเดินทางเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุ ตรงที่ร่างของพลทหารนนท์ ตกลงมาจากชั้น 7 ของตึกที่พักภายในค่าย ลงมาค้างอยู่ที่ชั้น 2 จึงได้เกิดความเคลือบแคลงใจเป็นอันมาก เพราะช่องทางลงหนีไฟมีขนาดเป็นช่องเล็กมาก น้องนนท์ ไม่น่าที่จะตกลงไปได้ และตรงที่เจ้าหน้าที่ทหารชี้จุดที่น้องนนท์ นอนเป็นศพอยู่กลับไม่มีทางเข้าไป หรือไม่สามารถที่จะตกเข้าไปได้ รวมทั้งผลการตรวจชันสูตรของแพทย์ จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงยาบาลตำรวจ ระบุว่าพบกระดูกสันหลังข้อที่ 3 จากด้านล่างเคลื่อน คล้ายถูกกระแทกจากของแข็งที่ไม่มีคม รวมทั้งอื่นๆ ทำให้พ่อ - แม่ ญาติ เชื่อว่ามีการฆาตกรรมพลทหารนนท์ เป็นแน่แท้ จึงได้เดินหน้าร้องขอความเป็นธรรม รวมทั้งไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ตรวจสอบกรณีเช่นนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นในกองทัพไทย
นาคำแพง พ่อของพลทหารนนท์ เล่าว่า ตนพยายามที่จะคิดว่า ลูกตนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่า ลูกตนจะซุกซนขนาดไปปีนช่องทางหนีไฟลงมาจากชั้นดาดฟ้าชั้น 7 จนทำให้เกิดพลาดท่าตกลงมาตามช่องทางหนีไฟ ร่วงลงมาตกค้างอยู่ในพื้นของชั้น 2 ได้เช่นไร เพราะเท่าที่ไปดูสถานที่ และดูจากภาพที่พากันถ่ายมาไว้ น้องนนท์ จะตกหลุดเข้าไปข้างในได้อย่างไร นอกจากนั้นรองเท้าก็อยู่ โทรศัพท์ก็อยู่ เพราะหากตกลงมาขนาดนั้น ทั้งคน ทั้งโทรศัพท์ คงแตกกระจายไปคนละทิศละทาง และก่อนหน้าที่จะไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ ทางไลน์ น้องนนท์ ได้โพสต์ข้อความบอกเพื่อนว่าจะไปตลาด ไปซื้อผงซักฟอก จะมาซักเสื้อผ้าและข้างๆ ศพ ก็พบถุงผงซักฟอก ซึ่งหากจะไปปีนช่องทางหนีไฟ แล้วตกลงมา จะพกถุงผงซักฟอกไปทำไม น้องนนท์ หายไป ไม่มีผู้คุม เวรยาม รู้เลยหรือว่ามีพลทหารเกณฑ์อาสาหายไปจากที่นอน หายไปจากกองฝึก เพราะหากหายไปเพราะลากลับบ้าน กระเป๋าอะไรต่างๆ ก็อยู่ครบ นี้แสดงว่าจะให้ศพลูกตนเน่าเปื่อยหายไปเลย มีการวางแผนช่วยกันปิดบัง อำพลางศพน้องนนท์ ตนเชื่อว่าคนในค่ายรู้เห็นเป็นแน่
นายคำแพง กล่าวต่อ ก่อนหน้านี้เดือนเมษายน 2562 น้องนนท์ ได้ลากลับมาบ้านในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ และเดินทางกลับไป แต่ที่สำคัญ น้องนนท์ ได้พูดแปลกๆ ว่า ตอนนี้หวาดระแวงมาก นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ ต้องคอยระวังว่าจะมีเพื่อนทหารมาทำร้าย ซึ่งนนท์ ก็ไม่เข้าใจว่ามารังเกียจทำไม เพราะที่ผ่านมาน้องนนท์ ก็ตามใจเขาทุกอย่าง เอาใจ ช่วยงานดีตลอด และที่สำคัญ น้องนนท์ บอกพ่อว่า พ่อดูหน้านนท์ เอาไว้ดีดีน่ะ ครั้งนี้ นนท์ มาลาพ่อแม่ อาจจะไม่ได้กลับมาอีก เพราะมันหนักขึ้นทุกวัน เพื่อนรุ่นพี่ที่ปองร้ายนนท์ มันขู่จะเอาชีวิตนนท์ให้ได้ ถึงขนาดประกาศว่า หากใครจะทำอะไรนนท์ ต้องบอกให้หยุด เพราะสำหรับนนท์ ต้องตายด้วยฝีมือเขาเท่านั้น ซึ่งครูฝึกพละรู้เรื่องนี้ดี และแกเคยปกป้องนนท์ โดยการไปชกเขา ซึ่งนนท์ ก็ลงไปประคองอุ้มเขา แต่พอเขาฟื้นมากลับเข้าใจว่านนท์ ทำร้ายเขา จึงขู่อาฆาตมาตลอด
ซึ่งตอนนี้ตนเชื่อว่าเพื่อนทหารรุ่นพี่ 3 คน ที่กองทัพอ้างว่าเขาปลดประจำการฝึกไปแล้วนั้น ตนเชื่อว่าเป็นคนทำร้ายก่อนหลบหนีไปด้วยกองทัพบางคนเห็นด้วย ช่วยเหลือ เปิดทางให้เป็นแน่ พ่อเชื่อเช่นนี้จริง และจะขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด จนกว่าลูกตนจะได้รับความเป็นธรรม จึงจะยอมหยุดการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ให้ลูก ต้องไม่ตายฟรี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปในกองทัพ