"มาดามเดียร์" ลุยสันป่าตองช่วยส.ส.ขอคะแนน

ตัวแทนผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นวันที่ 2 เพื่อช่วยผู้สมัครส.ส.พรรค เบอร์ 4 คือนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ หาเสียง จุดแรกวันนี้ลงพื้นที่ที่ตลาดนัดทุ่งฟ้าบด ต.มะขามหลวง ซึ่งจุดนี้มีพ่อค้าแม่ค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย จุดที่ 2 คือตลาดกิ่วแลน้อย และจุดที่ 3 ตลาดหน้าวัดมะขามหลวง ทั้ง 3 จุดอยู่ที่อำเภอสันป่าตอง ที่ตลาดนัดทุ่งฟ้าบดเมื่อช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะว่านอกจากพรรคอนาคตใหม่และพรรคพลังประชารัฐที่ขับเคี่ยวกันพอสมควร
แล้วก็ยังมีพรรคการเมืองต่างๆ อย่างเช่นพรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังปวงชนไทย พรรคภราดรภาพ พรรคประชาชาติ เพื่อประชาชน พรรครวมพลังสร้างชาติ และมีป้ายหาเสียงโดยรอบตลาด 
นอกจากนี้ มีประชาชนบางส่วนสวมใส่เสื้อสีเหลืองมาชูป้ายให้กำลังใจผู้สมัครส.สจากพรรคพลังประชารัฐโดยมาดามเดียร์ บอกว่า คะแนนเสียงของชาวเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่เป็นเขตสุดท้ายที่จะตัดสินเลือกส.ส.แบบแบ่งเขตอีก 1 คนที่เหลือ และแบบปาตี้ลิสอีก 1 คน เพื่อให้นโยบายที่หาเสียงได้เป็นจริง จึงขอโอกาสพี่น้องชาวเขต 8 เลือกนายนเรศ เพื่อเข้าไปผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ หลังจากที่จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จจะเดินหน้านโยบายทันที โดยเฉพาะนโยบายมารดาประชารัฐหรือ มาดามประชารัฐ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพรรคพลังประชารัฐเสร็จสิ้นภารกิจหาเสียง ได้เดินทางไปไหว้พระที่วัดธาตุศรีจอมทองวรวิหาร สำหรับส.ส.ที่เป็นตัวสำคัญในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ คือจากพรรคอนาคตใหม่ นางสาวศรีนวล บุญลือ ได้รับคะแนนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมอยู่ที่ 29,955 คะแนน ,พรรคพลังประชารัฐ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ คะแนนครั้งนั้นอยู่ที่ 39,221 คะแนน ทางการข่าวแจ้งว่าคะแนนที่เป็นของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการเลือกมาเป็นอันดับ 1 คะแนนอยู่ที่ 52,165 คะแนนจะเทมาให้กับพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากมีการเทคะแนนจริงจะทำให้คะแนนพรรคอนาคตใหม่ก้าวกระโดดจาก 29,000 บวกไปอีก 52,000 คะแนน ชัยชนะเป็นของพรรคอนาคตใหม่ 

ซึ่งเมื่อวานนี้นางสาวศรีนวลได้ประกาศความมั่นใจว่าจะเป็นผู้คว้าชัยชนะในศึกครั้งนี้แน่นอน แต่ก็มีการคาดการณ์จากผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ จากครั้งเดิมที่ผ่านมา 88 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุเพราะไม่มีการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า คนที่ไปทำงานต่างจังหวัด เรียนหนังสือ หรือค้าขายต่างพื้นที่ซึ่งมีจำนวนกว่า 5,000 คนอาจจะไม่ได้กลับมาเลือกตั้ง 
ส.ส.จากอนาคตใหม่ นางสาวศรีนวล เดิมเคยดำรงตำแหน่ง อบต. เคยเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และสจ. การหาเสียงเป็นไปอย่างเข้มข้น เน้นหนักไปทาง social media รวมถึงหัวหน้าพรรคอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงส่วนฝั่งพลังประชารัฐนายนเรศ ซึ่งเป็นคนสนิทของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และส.ส.จังหวัดพะเยา เป็นไปอย่างเข้มข้น โดยใช้เครือข่ายการหาเสียงแบบขายตรง สู้กับพลังโซเชียลของพรรคอนาคตใหม่ ใช้การหาเสียงจากผู้นำลงไปสู่ชาวบ้าน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเน้นนำเสนอนโยบายของพรรคให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจอย่างละเอียด เช่น โครงการเกี่ยวกับภาคเกษตรและที่ดิน ส.ป.ก. มารดาประชารัฐ การพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 เชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้ จะเป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ กกต.เพิ่งไปประกาศจำนวน 149 คน เพราะต้องนำคะแนนเลือกตั้งใหม่ของเขตเลือกตั้งดังกล่าวมาคำนวณเพื่อจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่ออีกครั้ง พรรคพลังประชารัฐมีการคำนวณคะแนนถ้าหากได้ 7-8 หมื่นคะแนนก็จะได้ส.สเพิ่ม 2 คน คือส.สแบบแบ่งเขต 1 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน 
นั่นหมายความว่า มาดามเดียร์ที่เป็นส.สแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 19 จะได้เก้าอี้ส.ส. มาครองด้วยด้วยผลคะแนนที่จะออกมา การคำนวณใหม่นี้อาจมีผลให้พรรคการเมืองบางพรรคได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นจากคะแนนที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันอาจส่งผลให้พรรคการเมืองที่ได้หลักทศนิยมน้อยที่สุด ถูกตัดส.ส.บัญชีรายชื่อไป 1 คน นั่นหมายความว่าจะมี ส.ส.บัญชีรายชื่อบางคนมีสถานะเป็น ส.ส.ในระยะเวลาไม่นานเท่านั้น เพราะถ้า กกต.ประกาศรับรองผล ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่แล้ว จะต้องนำผลคะแนนมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อทันทีด้านผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายเกรียงไกร พานดอกไม้ บอกว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 8 เชียงใหม่ มีจำนวน 163,823 คน และในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้มาใช้สิทธิ 144,271คนหรือคิดเป็นร้อยละ 88 ในจำนวนนี้มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต 1,672 คน แต่มาใช้สิทธิ 1,515 คน ส่วนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตมีผู้มีสิทธิ 94 คน มาใช้สิทธิ 93 คน ทั้งนี้ กกต.เตรียมจัดการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 26 พฤษภาคมโดยมีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 337 หน่วย และเตรียมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุดเดิม