เตรียมร้อง ปปช.- สตง.ตรวจสอบร้านค้าประชารัฐปิดร้านไม่โปร่งใส

จากกรณีที่ชาวบ้าน บ้านโนนเที่ยงศิริมงคล หมู่ 15 ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวน 10 คน นำโดยนางสุมาลี วงศ์ศรีเทพ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 85 หมู่ 15 และนางบุดดี ใจถวิล อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 197 หมู่ 15 ได้สำรวจบริเวณหน้าร้านและหลังร้านค้าประชารัฐประจำหมู่บ้าน หลังถูกปิดบริการมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2561 โดยชาวบ้านแจ้งว่าประธานร้านค้าที่ทำหน้าที่บริการจัดการ ได้ปิดร้านโดยไม่มีการชี้แจงงบดุล และอ้างว่าถูกมิจฉาชีพบุกรุก สร้างความเสียหายให้กับร้านค้า ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายนายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผวจ.กาฬสินธุ์ และนายชาญชัย ศรศรีวิชัย ปลัด จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ทางอำเภอนามน ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านโนนเที่ยงศิริมงคล โดยมีนายจักรกฤษณ์ ปรีกุล ปลัดอำเภอนามน นายนิติวัฒน์ เสนาผล ปลัดอำเภอนามน ลงพื้นที่ตามที่รับฟังปัญหา โดยมีนายวิรุฬห์ โพธิ์ไทร ปลัดเทศบาลตำบลนามน พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ประธานร้านค้าประชารัฐ คณะกรรมการร้านค้าประชารัฐ และชาวบ้านที่เป็นสมาชิก ร่วมให้ข้อมูล ทั้งนี้ ก่อนการสอบถามพุดคุย เพื่อหาทางออกของปัญหา นางยวนฤทัย กุลกิจ ประธานร้านค้าประชารัฐ ได้เปิดร้านค้าประชารัฐ เพื่อให้มีการตรวจสอบ หลังปิดทำการมาประมาณ 4 เดือน
โดยนางยวนฤทัย กุลกิจ ประธานร้านค้าประชารัฐบ้านโนนเที่ยงศิริมงคล กล่าวว่า การดำเนินการที่ผ่านมา ยืนยันในความสุจริต โปร่งใส ตนตั้งใจทำหน้าที่ประธานร้านค้าด้วยความเสียสละ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้าน ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้มาใช้บริการ โดยไม่ต้องนำบัตรไปรูดเพื่อแลกสิ่งของเครื่องใช้ตามร้านอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในตัวอำเภอหรือในตัวจังหวัด ที่จะต้องเสียค่ารถเดินทาง ให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก
นางยวนฤทัย กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ต้องปิดร้านค้าประชารัฐนั้น เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาสามีตนซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้ถูกชาวบ้านร้องเรียนหลายเรื่อง และยังมีเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าร้าน จึงทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และไม่มีกำลังใจจะทำงาน ซึ่งต้องขออภัยชาวบ้านด้วย เพราะหากใครที่ประสบปัญหาดังกล่าว ก็คงจะมีความรู้สึกเหมือนที่ตน อย่างไรก็ตาม ยืนยันในความโปร่งใส การบริหารจัดการในร้านมีหลักฐานการซื้อขาย และสามารถชี้แจงได้

ขณะที่นางบุดดี ใจถวิล ชาวบ้านโนนเที่ยงศิริมงคล กล่าวว่า ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกร้านค้าประชารัฐทุกครัวเรือน ยังเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนเงินล้านอีกด้วย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกับร้านค้าประชารัฐนั้น ชาวบ้านสงสัยว่าอาจจะเชื่อมโยงกับการบริหารกองทุนหมู่บ้าน และงบประมาณหลายโครงการ ที่รัฐบาลสนับสนุนลงมา โดยจะมีผู้ใหญ่บ้านและภรรยาทำหน้าที่ผู้บริหารกองทุนหรืองบประมาณดังกล่าว
"ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณลงมา เพื่อให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณอย่างทั่วถึง เช่น ต่อยอดกองทุนหมู่บ้าน โครงการ 9101 แต่ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกหลายครัวเรือน กลับเข้าไม่ถึงสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ ในขณะที่คนใกล้ตัวผู้บริหารเงิน ทั้งกองทุนเงินล้าน และโครงการ 9101 กลับได้รับผลประโยชน์ ซึ่งชาวบ้านรู้เห็นทั้งหมู่บ้าน จึงเกิดความสงสัยในการใช้เงินงบประมาณ รวมทั้งการบริหารร้านค้าประชารัฐ ที่มีภรรยาผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานด้วย ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันทำหนังสือร้องเรียนไปที่อำเภอนามนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งจะได้เตรียมเอกสารเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ต่อไป เพื่อขอความเป็นธรรม และอยากเห็นความเสมอภาคเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ไม่อยากเห็นความเหลื่อมล้ำระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้าน" นางบุดดีกล่าว
ด้านนายนิติวัฒน์ เสนาผล ปลัดอำเภอนามน กล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ลงมาดูการบริหารจัดการร้านค้าประชารัฐ ประจำหมู่บ้านโนนเที่ยงศิริมงคล จากการรับฟังปัญหาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าเกิดจากปัญหาการบริหารจัดการภายใน ซึ่งในเบื้องต้นได้แนะนำให้ประธาน คณะกรรมการ และสมาชิก ของร้านค้าประชารัฐ ได้มีการเปิดอกคุยกันในประเด็นที่ยังไม่เข้าใจกัน เพื่อร่วมกันหาทางออกของปัญหา และเพื่อให้การดำเนินกิจการของร้านค้าประชารัฐ สามารถเดินหน้าต่อไปได้

"สำหรับข้อร้องเรียนที่ชาวบ้านยื่นต่ออำเภอนามนนั้น ทั้งในส่วนกองทุนเงินล้าน โครงการ 9101 และร้านค้าประชารัฐ ทางอำเภอได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่สรุปผลเป็นหนังสือประกาศให้รับทราบ ขณะที่การร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านและภรรยา เกี่ยวกับการบริหารจัดการร้านค้าประชารัฐนั้น เบื้องต้นไม่พบว่าผู้ใหญ่บ้านมีความผิด ทั้งนี้ หากชาวบ้านยังมีข้อสงสัย สามารถร้องเรียนไปที่สำนักงานพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง" นายนิติวัฒน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังปลัดอำเภอนามน ลงพื้นที่พุดคุยกับประธานร้านค้าประชารัฐและชาวบ้าน แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ สุดท้ายแนะนำให้มีการประชุมเพื่อหาทางคลี่คลายปัญหาอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านที่เป็นสมาชิกร้านค้าประชารัฐ ยังไม่พอใจแนวทางการแก้ปัญหาของฝ่ายปกครอง ได้เตรียมยื่นเอกสารเพื่อร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด, ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์, ปปช.และ สตง. เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป