นายกอบต.เชิงทะเลแจงภาพน้ำเสียไหลลงหาดสุรินทร์

จากกรณี เครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน เครือข่ายชุมชนชายฝั่ง เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จังหวัดภูเก็ต ให้ตรวจสอบงบประมาณโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียที่รับผิดชอบโดย อบต.เชิงทะเล งบประมาณรวม 355 ล้านบาท ล่าสุด นายมาแอ่น สำราญนายกอบต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ชี้แจงกับเนชั่นทีวี ว่า กรณีนี้แยกเป็นสองส่วนคือโครงการก่อสร้างและการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย แยกสัญญาก่อสร้าง กับการบริหารระบบ ออกจากกัน ในส่วนสัญญาการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียที่หาดสุรินทร์ และหาดบางเทา มีบ่อดัก และบอกสูบ กระจายตามพื้นที่ต่างๆ แต่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ 100% 

สำหรับปัญหาที่ผ่านมาหลังจากมีการก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จเมื่อ พ.ค.2560 ในสัญญาการก่อสร้างได้เดินเครื่องเทสระบบ 2 เดือน จึงตรวจรับงาน แต่ที่เป็นปัญหาคือ จัดการระบบบำบัดน้ำเสีย จะต้องไปหาบริษัทเข้ามารับดำเนินการ โดยปัญหาขณะนี้ก็คืออยู่ระหว่างการหาเอกชนเข้ามาบริหารระบบบำบัดน้ำเสียซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านการจัดการน้ำเสียแต่ปรากฏว่ามีการเสนอให้ยื่นซองประกวดราคา 4 รอบ ใช้ระยะเวลาหนึ่งปีเศษ ก็ยังไม่มีผู้ยื่นประมูล ดังนั้น ระยะเวลา 1 ปีเศษที่ไม่มีการ เดินเครื่องระบบบำบัดน้ำเสียก็ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพตามระยะเวลาจึงมีการบอกกันว่าโครงการก่อสร้างแล้วเดินเครื่องไม่ได้ทั้งที่จริงๆแล้วบริษัทผู้รับเหมาได้มีการเดินเครื่องทดสอบระบบนาน 2 เดือนการแก้ปัญหาชั่วคราว นายมาแอ่น บอกว่า ขณะนี้ ได้ไปขอให้บริษัทเอกชนรายหนึ่ง มาช่วยดูการเดินเครื่องระบบบำบัด แต่เนื่องจากปัญหาการไม่ได้เดินเครื่องปีเศษ และเครื่องอยู่ใต้ดิน จึงจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการขุดลอกตะกอนดินออกจากบ่อดัก บ่อสูบ ซึ่งต้องใช้งบประมาณ และระหว่างหาเอกชนมาดำเนินการ ก็ทราบว่ามีองค์กรจัดการน้ำเสีย (อจน.) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ จึงเข้าไปติดต่อ 

เมื่อเร็วๆนี้ อจน.ลงมาดูพื้นที่และพร้อมที่จะเข้ามาดำเนินการแต่สัญญาจ้างจะต้องเป็นสัญญาจ้างระยะยาวทำปีต่อปีไม่ได้ อบต.จึงเสนอไปที่สภาอบต. และผู้ว่าราชการจังหวัด ในสัญญาจ้างอจน. 13 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องยอมรับว่าน้ำเสียส่วนหนึ่งมาจากสถานประกอบการ และ 30% มาจากครัวเรือน แต่อบต.จะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ โดยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนของคลองบางเทา จะมีการสูบน้ำไปบำบัด และตักตะกอนดินเลนที่ทับถมกันนับ 10 ปีออกจากก้นคลอง ก่อนน้ำจะไหลลงสู่ทะเล ทั้งหมดนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านให้เร็วที่สุด