svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ดีเอสไอ-อินเตอร์โพล"บูรณาการจับเว็บแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก

23 พฤษภาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ดีเอสไอแถลงผลบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการจับกุมผู้ต้องหาเปิดเว็บไซต์เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก พัวพันกับผู้ต้องหาหลายประเทศทั้งไทย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมตัวแทนสำนักงานตำรวจองค์กรสากล( Interpoll) และหน่วยงานเกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 2 คน ออสเตรเลีย 1 คนและสหรัฐอเมริกา 4 คนในข้อหาค้ามนุษย์ ข้อครอบครองและผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองและผู้อื่นพ.ต.ท.ปกรณ์ แถลงว่า กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ ได้รับข้อมูลจากตำรวจสากล ว่ามีเว็บไซต์ของไทยเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กให้แก่สมาชิกของเว็บไซต์ระบบบอกรับสมาชิก ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กถ่ายโดยเจ้าของเว็บไซต์เอง โดยตำรวจสากล วิเคราะห์ข้อมูลสื่อลามกดังกล่าว พบผู้เสียหายจำนวนหลายรายและเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ดีเอสไอ ได้สนธิกำลังกับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักการสอบสวนและนิติการ (กรมการปกครอง) กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 และองค์กรเอกชนไม่แสวงผลกำไร จับกุมผู้ต้องสงสัยเรื่องสัญชาติ 1 ราย ได้ในพื้นที่จ.สุรินทร์ ในข้อหาครอบครองและผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

"ดีเอสไอ-อินเตอร์โพล"บูรณาการจับเว็บแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวจริง โดยได้หลอกล่อเด็กที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงให้มาถ่ายภาพและวิดีโอลามกที่บ้านของตน โดยอ้างว่าชักชวนให้มาถ่ายงาน ซึ่งดีเอสไอ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามตัวเด็กผู้เสียหาย สามารถระบุตัวเด็กผู้เสียหายได้ 7 รายนอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ตำรวจออสเตรเลียได้จับกุมบุคคลสัญชาติไทย-ออสเตรเลีย 1 ราย ได้ที่รัฐ South Australia ในข้อหากระทำชำเราเด็ก และข้อหาครอบครองและผลิตสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งทั้งสองประเทศได้มีการตรวจยึดพยานหลักฐาน และรวบรวมข้อมูลสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อนำส่งให้กับสำนักงานองค์การสากล วิเคราะห์และคัดแยกตัวผู้ต้องหาและผู้เสียหายต่อไป โดยใช้ฐานข้อมูล International Child Sexual Exploitation (ICSE) Database ต่อมา ตำรวจออสเตรเลีย ได้สอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งได้ให้การอ้างถึงคู่ขาของตนที่อยู่ที่ประเทศไทย ว่าได้เคยกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้รับจากสำนักงานองค์การตำรวจสากล เป็นภาพขณะกำลังกระทำอนาจารเด็ก อยู่ในโทรศัพท์มือถือของเขากองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ จึงสนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปราม กรมการปกครอง จับกุมบุคคลที่เป็นคู่ขา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2561 ได้ที่จ.ลำปาง ซึ่งในพื้นที่ พบผู้เสียหายหลายราย โดยเป็นเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ต้องหาได้กระทำอนาจารเด็ก 2 ราย ที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของผู้ต้องหา ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร

"ดีเอสไอ-อินเตอร์โพล"บูรณาการจับเว็บแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก

นอกจากนี้ กองกิจการต่างประเทศยังได้ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย เป็นข้อมูลสื่อลามกอนาจารเด็กซึ่งเชื่อว่าผู้กระทำเป็นตำรวจไทย กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ จึงสนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปราม เพื่อตรวจสอบช้อมูล พบว่าเป็นตำรวจในจ.พัทลุง เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2561 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ ได้สนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปราม กรมการปกครอง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ที่บ้านพักในพื้นที่จ.พัทลุงจากการติดตามตัวผู้เสียหายพบว่าเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านของผู้ต้องหา นอกจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งในไทย และออสเตรเลียแล้ว ตำรวจสากล ได้วิเคราะห์ข้อมูลของผู้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์ที่มีเผยแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก พบว่ามีผู้ที่สมาชิกเว็บไซต์กว่า 65,000 คน อยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมา ตำรวจสากลได้มีการส่งข้อมูลผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ไปยังประเทศปลายทาง เช่น สหรัฐอเมริกา จนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์ชอบสะสมภาพลามกอนาจารเด็กได้ในหลายพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาสำหรับการดำเนินคดี ผู้ต้องหาที่ถูกจับในพื้นที่จ.สุรินทร์ ศาลตัดสินให้จำคุก 50 ปี และชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย 2,500,000 บาท สำหรับผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.ลำปาง ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 36 ปี 6 เดือน และชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย 300,000 บาท สำหรับผู้ต้องหาในพื้นที่จ.พัทลุง ยังอยู่ระหว่างดำเนินคดีนอกจากการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว ยังได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงช่วยในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย

"ดีเอสไอ-อินเตอร์โพล"บูรณาการจับเว็บแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก

นายอีริค แมกลอคลิน ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย (Homeland Security Investigations HSI) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างไทย สหรัฐและออสเตรเลีย นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทีอเมริกา 4 ราย จำนวนนี้มีอาชีพเป็นครูที่ได้รับการไว้วางใจจากสาธารณชน จนทำให้เข้าถึงเด็กได้ง่ายซึ่งการพบรูปภาพที่ถูกเผยแพร่ได้เร็วและทันท่วงที่จะทำให้ภาพดังกล่าวไม่ถูกเผยแพร่ซ้ำอีก เป็นการช่วยหยุดการถูกละเมิดในเด็ก ซึ่งเด็กๆ อาจจะพูดหรือป้องกันตัวเองไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถปกป้องไม่ให้เขาตกเป็นเหยื่อได้

"ดีเอสไอ-อินเตอร์โพล"บูรณาการจับเว็บแพร่ภาพลามกอนาจารเด็ก

Miss Cecilia Wallin ,Criminal Intelligence Officer กล่าวว่า ระบบการใช้ฐานข้อมูลอาชญากรรมในเด็กเพื่อช่วยระบุตัวตนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นการทำงานร่วมกันของ 60 ประเทศ โดยใช้ฐานข้อมูลจากรูปภาพเป็นหลักฐานสำคัญเพื่อนำมาวิเคราะห์เวปไซต์ที่มีการเผยแพร่รูปลามกอนาจาร ซึ่งปฎิบัติการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ปี 2017 เพื่อใช้ค้นหารูปภาพในการจำแนกผู้ต้องหาและผู้เสียหายปัจจุบันอินเตอรโพลมีตัวเลขเด็กที่ถูกละเมิดทางเพศและสามารถระบุตัวตนได้ 50 ราย และเชื่อว่า ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้Mr. Stephen Fry ,Senior Liaison Officer สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย กล่าวว่า จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลียพบว่ามีภาพเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกกระทำอนาจารเผยแพร่อยู่บนเวปไซต์กว่า 850,000 ไฟลด์ และช่วงอายุเด็กที่ถูกละเมิดพบตั้งแต่วัย 15 เดือนถึง 12 ปี ที่ผ่านมาทางการออสเตรเลียสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเฉพาะในคดีนี้ได้ 3 รายพบว่ามีการกระทำความผิดรวมทั้งสิ้น 50 กรรม เป็นการล่วงละเมิดเด็กโดยตรง และทางออนไลน์ โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องหาทั้งหมดคนละ 40 ปีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้มีการตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดนานที่สุดในคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดทางเพศเด็กพ.ต.ท. ปกรณ์ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ตลอดจนความร่วมมือในการสืบสวนและการบังคับใช้กฎหมายแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อันนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งเป็นความผิดที่ต่อสิทธิเสรีภาพของมวลมนุษยชาติ และเป็นกรณีที่หน่วยงานระหว่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ขณะที่ต่างชาติได้ขอบคุณประเทศไทย ที่เอาจริงเอาจังติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษ และยังได้ตัวผู้ต้องหากลับไปรับโทษที่ประเทศต้นทางความผิดอีกด้วย

logoline