รวบทหาร KNU ลักลอบล่าสัตว์อุทยานฯไทรโยค
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ลาดตระเวนตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ พบทหารกะเหรี่ยง KNU นำอาวุธสงครามลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จับกุมได้ 1 คน พร้อมซากลิงกัง และ หมีขอ ซึ่งเป็นสัตว์สงวนฯ ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค นำโดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต รองหัวหน้าหน่วยพญาเสือ ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน (SMART Patrol) ตามตะเข็บแนวชายแดนไทย - เมียนมาร์ในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณเหมืองเดวิด (เหมืองร้าง - สิ้นสุดสัมปทานไปนานแล้ว)กระทั่งเวลา 14.00 น. ลาดตระเวนถึงพิกัด UTM ที่ 47P 0459430E 1585364N ซึ่งห่างจากชายแดนสหภาพเมียนมาร์ 2.8 กิโลเมตร ตรวจพบเพิงพักมุงด้วยใบปาล์ม ลักษณะสดใหม่ จึงกระจายกำลังเข้าโอบล้อม แต่ชายฉกรรจ์ 2 คน วิ่งหลบหนีไปได้ สามารถจับกุมได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังว่า นายซาตู ไม่มีนามสกุล อายุ 26 ปี
นายพนัชกร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายชาตู รับสารภาพเป็นกองกำลัง KNU ลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ในประเทศไทย ตรวจค้นรอบบริเวณ พบอาวุธสงคราม M16A2 จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซอง 1 กระบอก และปืนแก็ป 1 กระบอก ลูกกระสุน M16 จำนวน 38 นัด ลูกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 7 นัด ซากหมีขอรมควัน 21 ชิ้น ซากลิงกังรมควัน 24 ชิ้น และเครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหารอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เกรงว่าทหาร KNU ที่หลบหนีไปจะไปตามพรรคพวกมาปิดล้อมแย่งชิงผู้ถูกจับกุม จึงขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเคลื่อนย้ายกำลังพลออกจากพื้นที่ โดยทุกคนปลอดภัยจากการสอบถาม นายซาตู ผ่านล่าม ให้ข้อมูลว่า ตนกับพวกทหารกองกำลัง KNU อีก 2 คน ซึ่งหลบหนีไปได้ โดยมากัน 2 วันแล้ว และเข้ามาล่าสัตว์ในประเทศไทยเพื่อนำไปเป็นอาหาร แต่อ้างว่าผู้บังคับบัญชาของตนสั่งห้ามเข้ามาในเขตประเทศไทย แต่อีก 2 คนที่หลบหนีฝ่าฝืนเข้ามา
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ต่อไป