นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ พร้อมด้วยผู้ติดตาม เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) เพื่อเข้าขอขมา ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ที่เคยทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย กรณีนายมงคลกิตติ์ เคยไลฟ์สด ชีวิตสมัยเรียอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ว่าเป็นนักเลงรุ่นใหญ่ในมหาวิทยาลัย จนสร้างความไม่พอใจให้กับ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน ที่จนมีการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อ ถอดถอน
นายมงคลกิตติ์ ตั้งใจจะขอขมา ณ ลานบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่กังวลว่าจะเกิดการเผชิญหน้า จึงเข้าไปขอขมาผู้บริหาร ผ่านตัวแทนศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ผ่านรองอธิการบดี 2 ท่าน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระเจ้าเกล้าพระนครเหนือ คือ ผศ.สมชาย เวชกรรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และ ผศ.วรวิทย์ จตุรพาณิชย์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการนำคลิปวิดิโอ ที่ไลฟ์ผ่านทางเฟชบุคจาก2ชั่วโมงกว่า เมื่อ 2เดือนก่อนที่จะมาลงสมัครเลือกตั้ง ถูกนำมาตัดต่อให้สั้นเหลือ2 นาที แล้วดูทำให้เกิดความรุนแรง บิดเบือน และเปิดทางสถานีโทรทัศน์ซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้เกิดเสียหายต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งได้เเนะมหาวิทยาลัยไม่ให้ฟ้องสื่อ เนื่องจากเป็นการเข้าใจผิด เเละ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสถาบัน มองว่าเป็นการดิสเครดิต การจัดตั้งรัฐบาล สาเหตุที่ทำลงไปเพราะหวังต้องการเกิดกระแสภายในพรรค และให้พรรคเป็นที่รู้จัก เพราะไม่เงินทุนในการหาเสียงยืนยันว่าเขามีวุฒิภาวะ สามารถทำหน้าที่เป็นสส.ในสภาได้ ยอมรับว่า เป็นคนเลือดร้อน แต่ไม่ใช่นักเลง หลังอายุ 18 จนบรรลุนิติภาวะ ไม่เคยต่อยกลับใคร วันนี้ตั้งใจมาอขมา ขอโทษที่ทำให้มหาวิทยลัยเสียชื่เสียง ส่วนศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน จะให้อภัย หรือ ไม่ให้อภัยไม่เป็นไร และ จะยื่นล่ารายชื่อถอดถอนก็สามารถทำได้
ขณะที่ ผศ.สมชาย เวชกรรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และ ศิษย์เก่าสัมพันธ์และ ผศ.วรวิทย์ จตุรพาณิชย์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ยอมรับการขมาจากนายมงคลกิตติ์โดย ผศ.วรวิทย์ บอกว่า มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุน ความร่วมมือจากรัฐบาลเยอรมัน เป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรม เป็นที่ยอมของภาคเอกชนไทยในไทย และ ต่างประเทศ สอยนณทิตให้ คิดเป็น ทำเป็น แต่หลังมีข่าวจากนาย มงคคลกิตติ ทำให้บุคคลากร ต่างรู้สึกไม่สบายใจ การเข้ามาขอขมาถือเป็นเรื่องที่ดี ปัญหาที่เกิดขึ้น เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวรองอธิบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา บอกว่า มหาวิทยาลัย มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก นักศึกษาที่ก่อการทะเลาะวิวาท จะลงโทษสถานหนัก โดยเฉพาะหากมีอาวุธ มีสุรา เข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ออกสถานเดียว หากมีเหตุการณ์อย่างที่นายมงคคลกิตติ์กล่าว หากเกิดภายนอกไม่ทราบ แต่หากเกิดภายในสถาบัน จะลงโทษสถานหนัก เป็นการกระทำภายนอก เป็นเรื่องส่วนตัว หากคิดได้ว่ามาขอโทษ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของศิษย์เก่า
ทำให้นายมงคลกิตติ์ต้องรีบออกจากห้องเพื่อเดินมากลับ ขณะที่ด้่านนอกมีศิษย์เก่า ศิษย์ปัจุบัน คบุคลากรในมหาวิทยาลัย ประมาณกว่า100 คน ยืนรอดูนายมงคลกิตติ์ ออกมา เเละเมื่อทราบว่านทยมงคลกิตติ์ ขึ้นรถเตรียมเดินทางกลับ จึงพร้อมใจกันมายืนรอรถนายมงคลกิตติ์ โดยส่งสัญญาน เบนซ์สีดำ เมื่อรถเคลื่อนออกมาด้าหน้า บรรดาศิษย์จึงกรูเข้าไป ตัดหน้ารถ ให้ชะลอ พร้อมกับต่อว่า และ โห่ร้อง ด้วยความ ไม่พอใจ ที่ทำให่สถาบันเสียชื่อเสียง จากกการกล่าวอ้างโดยระบุว่านักศึกษาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าไม่ใช่นักเลง ที่ชอบทะเลาะวิวาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้